นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจ (High Level Economic Dialogue: HLED) ไทยกับฝรั่งเศส ครั้งที่ 3 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยการหารือครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะได้ต่อยอดความร่วมมือเดิมและผลักดันความร่วมมือใหม่ในอุตสาหกรรมที่ฝรั่งเศสมีศักยภาพให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น ความร่วมมือด้านอากาศยาน ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร พลังงานทดแทน นวัตกรรมอาหาร เกษตรและเกษตรแปรรูป แฟชั่นและการออกแบบ การสกัดสารเพื่ออุตสาหกรรมเครื่องสำอางและน้ำหอม ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นต้น
นางอรมน กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐของไทยหลายหน่วยเข้าร่วมด้วย เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น โดยได้สานต่อประเด็นที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือไว้กับประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเยือนกรุงปารีสเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ที่ได้ตกลงกระชับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ
การประชุม HLED ครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เชิญฝรั่งเศสเข้าร่วมกิจกรรมที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 มีแผนจะจัดขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมเพื่อเตรียมบุคลากรรองรับการปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์และออโตเมชั่นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งฝรั่งเศสจะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ได้เชิญฝรั่งเศสร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของความร่วมมือกลุ่มประเทศในลุ่มแม่น้ำอิระวะดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่ม ACMECS ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย รวมทั้งได้หารือเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีการนำมาตรการปกป้องและกีดกันทางการค้ามาใช้ จึงจำเป็นต้องหาแนวทางผนึกความร่วมมือเพื่อให้ระบบการค้าพหุภาคีมีความเข้มแข็ง รวมทั้งได้เชิญฝรั่งเศสลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของไทยที่เน้นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ฝรั่งเศสเชี่ยวชาญ
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเดินทางมาเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ ยังได้พบหารือกับนายฟรองซัวร์ กอร์แบง ประธานสภาองค์กรนายจ้างของฝรั่งเศส (MEDEF International) และคณะภาคธุรกิจของฝรั่งเศส ที่ได้แสดงความสนใจลงทุนในไทยในอุตสาหกรรมการขนส่งและระบบโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน เกษตรและอาหาร และเมืองอัจฉริยะ และแจ้งว่าพร้อมร่วมมือพัฒนาบุคลากรของไทยรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ ฝ่ายไทยจึงได้เชิญชวนให้นักธุรกิจของฝรั่งเศสจัดคณะไปเยือนไทยและเยี่ยมชม EEC ซึ่งภาคเอกชนฝรั่งเศสตอบรับพร้อมจัดคณะเยือนไทยเร็วๆ นี้
นางอรมน เสริมว่า การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดี คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้การค้าการลงทุนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยในปี 2560 มีการลงทุนโดยตรงจากฝรั่งเศสไทยรวม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอุตสาหกรรมพลังงาน ยานยนต์ เป็นต้น ในขณะที่ภาคเอกไทยก็เข้าไปลงทุนในฝรั่งเศสเช่นกัน เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังได้พบหารือผู้นำเข้าสินค้าอาหารไทย เพื่อติดตามสถานการณ์นำเข้าและจำหน่ายสินค้าอาหารและอาหารแปรรูปของไทยในฝรั่งเศสด้วย
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 25 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (รองจากเยอรมนี สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์) ในปี 2560 การค้าไทยกับฝรั่งเศสมีมูลค่า 5,262.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 20.71 โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังฝรั่งเศสเป็นมูลค่า 1,782 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เลนซ์ และไทยนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศสเป็นมูลค่า 3,480.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น