เมื่อวันอังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 15.00 น. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระดับจังหวัด ร่วมกับนายพิบูล หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก และนายวรพันธุ์ สุวัณณุสต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ณ ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการดำเนินงาน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 243/2563 เรื่องมอบหมายให้รับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระดับพื้นที่ของ 3 จังหวัด (ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก) เพื่อเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ และเสนอแนะ ในการติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยา และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สู่เป้าหมายการยกระดับคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาประเทศ
“บรรยากาศการประชุมนัดแรก ถือว่าเป็นไปด้วยความร่วมมือร่วมใจ ด้วยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว และนครนายก โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอประเด็นการดำเนินงานและปัญหาของแต่ละจังหวัดในภาพรวม ทั้งในเรื่องของการคมนาคม ที่จะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด การขยายถนน เพื่ออำนวยความสะดวกการสัญจรไปมาของประชาชน สนับสนุนการขนส่ง โลจิสติกส์ และระบบเศรษฐกิจการค้า รวมทั้งระบบบริหารจัดการน้ำ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้ และมีน้ำสำหรับการเกษตรในหน้าแล้ง ตลอดจนป้องกันอุทกภัยในฤดูฝนหรืออุบัติภัยต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายเขา บูรพาคีรี (เขาใหญ่-ปางสีดา) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงสุขภาพและกีฬา รวมทั้งการสะท้อนปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตร เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้แรงงานต่างชาติข้ามด่านชายแดนเข้ามาไม่ได้ การจัดหาสถานที่กักตัวของรัฐ รองรับการเข้ามาของแรงงานดังกล่าว และแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชนด้านที่พักและการโรงแรม เพื่อรองรับแรงงานและพนักงานต่างชาติที่จะกลับเข้ามาทำงานในพื้นที่
ในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด ที่ได้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำ ทำงานด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้กับประชาชนในทุกสถานการณ์ ทั้งยังริเริ่มโครงการเพื่อการพัฒนาจังหวัดอย่างมั่นคง สู่รากฐานในการพัฒนาระดับประเทศต่อไป และแม้ในยามเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 ซึ่งเป็นโรคที่อุบัติขึ้นใหม่ทั่วโลก ก็ได้เป็นศูนย์รวมพลังความสามัคคีของทุกภาคส่วนในจังหวัด เน้นหลักความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารงานด้วยความเข้มแข็งในทุกมิติ และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสามจังหวัด เชื่อว่าจะสามารถทำงานให้ก่อเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง/ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ล สร.ศธ.: รายงาน
1/9/2563