รมว.แรงงาน เปิดสัมมนาวิชาการและมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ปีงบประมาณ 2562 เน้นจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย นำเข้าแรงงานตาม MOU ปรับตัวแรงงานให้ก้าวทันเทคโนโลยี เตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2564 คุ้มครองแรงงานได้ให้รับสิทธิตามกฎหมาย ส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน สร้างหลักประกันสังคมแก่แรงงานในระบบและนอกระบบ
วันที่ 24 กันยายน 2561 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาสัมมนาวิชาการและมอบนโยบายของกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยกล่าวว่า กระทรวงแรงงาน เป็นกระทรวงที่มีความสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม การบริหารจัดการด้านแรงงาน เป็นงานที่มีความสำคัญส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในห้วงเวลาของการปฏิรูปประเทศที่ต้องนำยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศไปสู่การปฏิบัติ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการระดับภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกำลังแรงงานของประเทศให้มีงานทำ มีรายได้ มีอาชีพ ยกระดับฝีมือแรงงาน คุ้มครองและสร้างหลักประกันสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับแรงงานความท้าทายด้านแรงงานที่มีหลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขาดแคลนกำลังแรงงานจนส่งผลให้ต้องมีการนำเข้าแรงงานต่างด้าว
พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2562 กระทรวงแรงงานจะดำเนินการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ได้รับผ่อนผันให้มีเอกสารยืนยันตัวบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการนำเข้าแรงงานตาม MOU อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งแรงงานต้องสามารถปรับให้ทันกับเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในปี 2564 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์การคุ้มครองแรงงานได้รับสิทธิตามกฎหมาย และส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งการสร้างหลักประกันสังคมให้กับแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ
“ขอให้ทุกคนร่วมกันกำหนดยุทธการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จในการวางรากฐานที่มั่นคงด้านแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ ให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ลดความเหลื่อมล้ำ ลดความขัดแย้งในสังคม และนำพาประเทศชาติสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” อันเป็นวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ 20 ปี ต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายสุด