นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย ได้รับรายงานจากสำนักงานแรงงานไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ว่ามีแรงงานไทยในลิเบีย ร้องขอความช่วยเหลือในการเดินทางกลับประเทศไทยจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม จึงสั่งการกรมการจัดหางาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความช่วยเหลือออย่างเร่งด่วน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับรายงาน จากสำนักงานแรงงานไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ว่ามีแรงงานไทยจำนวน 19 คน ที่ทำงานอยู่ในประเทศลิเบียกับนายจ้างบริษัท Mellitah Oil & Gas B.V. Libyan Branch ตั้งอยู่ที่เมือง Awijilah (จาลู) ใกล้ชายแดนอียิปต์ ห่างจากกรุงตริโปลี ประมาณ 1,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า (Joint Venture) กันระหว่างบริษัท Eni North Africa ของประเทศอิตาลี กับ National Oil Cooperation Noc ลิเบีย ซึ่งแรงงานไทยแจ้งว่าเดินทางไปทำงานโดยการจัดส่งของบริษัทจัดหางาน เวิลด์พาวเวอร์ เซอร์วิส จำกัด ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ว่าต้องการเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากกลัวจะติดเชื้อโควิด – 19 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศลิเบีย จึงได้สั่งการให้ กรมการจัดหางาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบริษัทจัดหางานดังกล่าวเป็นผู้จัดส่งจริงหรือไม่ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะลงโทษตามกฎหมาย และจะเร่งประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศในการให้ความช่วยเหลือเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อมูลการเดินทางไปทำงานของแรงงานไทยจำนวน 19 คนดังกล่าว พบว่าทั้งหมดไม่ได้แจ้งการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจาก กรมการจัดหางาน ไม่อนุญาตให้ดำเนินการจัดส่งคนหางานไปทำงานในประเทศลิเบีย เพราะเป็นประเทศที่เกิดภัยสงครามกลางเมือง จึงระงับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศลิเบียทุกกรณี ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563 กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ได้เชิญบริษัทจัดหางาน เวิลด์พาวเวอร์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งแรงงานไทยแจ้งว่าเป็นผู้จัดส่งไปทำงานในประเทศลิเบีย มาชี้แจงข้อเท็จจริง หากพบว่าบริษัทจัดหางานดังกล่าวเป็นผู้จัดส่งจริง จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
“ ขอ ย้ำเตือนว่า คนหางานที่ประสงค์จะไปทำงานในต่างประเทศ ก่อนตัดสินใจไปทำงาน ควรตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน ว่าตำแหน่งงาน และประเทศที่จะไปนั้น มีอยู่จริงหรือไม่ มีสัญญาจ้าง เงินเดือน หรือสวัสดิการ ตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวง” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
…………………………………………………