กรุงเทพฯ กันยายน 2561 – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ อวดโฉมหน้าผู้ประกอบการจาก 30 บริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้า และบริการภายใต้แบรนด์สินค้าไทยได้อย่างมีมาตรฐานผ่านเกณฑ์การรับรองของตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark ร่วมเชิดชูเกียรติและประชาสัมพันธ์ผู้ได้รับตรา T Mark ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างพร้อมตอกย้ำความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศว่าสินค้าที่ได้รับตรา T Mark ได้มาตรฐานทั้งในด้านการผลิตที่คำนึงถึงผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีธรรมาภิบาลและมีการคุ้มครองแรงงานอย่างเป็นธรรม
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายในงานพิธีมอบประกาศนียบัตรผู้ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark ประจำปี 2561 ว่า “ตลอดการจัดโครงการ Thailand Trust Mark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เน้นย้ำความสำคัญในการยกระดับความเชื่อมั่นต่อสินค้าและบริการไทยผ่านกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพอยู่เสมอ โดยหลักเกณฑ์ที่ทางโครงการใช้ในการคัดเลือกบริษัทให้ได้รับการรับรอง และมีสิทธิ์ใช้ตราสัญลักษณ์ T Mark เพื่อการค้าในวันนี้ประกอบด้วย 1.สถานประกอบการที่มีคุณภาพ มาตรฐานระดับสากลได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย 2.ต้องเป็นอุตสาหกรรมที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 3. มีการการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนแรงงาน”บทบาทของตรา T Mark ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคคือการเป็นตราสัญลักษณ์จากรัฐบาลไทยที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ว่า สินค้าหรือบริการที่ได้รับตรานี้มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากลครบในทุกมิติ และมั่นใจได้ว่าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสินค้าและบริการที่มีตรา T Mark รับรอง
สำหรับบริษัทที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ในปีนี้รวมทั้งสิ้น 30 บริษัท จาก 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
- กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร จำนวน 10 บริษัท คือ บริษัท ไก่ดำมหากิจ จำกัด, เชียงราย อะโกร-อินดัสทรี จำกัด, บริษัท ซิโฟน่า ค๊อฟฟี่ จํากัด, บริษัท โกศล-อัมพา จํากัด, บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด, บริษัท มารีน ฟายน์ ฟูดส์ จำกัด, บริษัท นําเชา (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท โรแยล พลัส จำกัด, บริษัท สหชัยไทยพืชผล จํากัด, บริษัท ไทย แอ็กโกร อินเตอร์เทรด จํากัด
- กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก จำนวน 5 บริษัท คือ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลง จํากัด, บริษัทยีเอส ยัวซ่า สยาม อินดัสตรีส์ จำกัด, บริษัท เอ็นเทค โพลิเมอร์ จำกัด, บริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด, บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด
- กลุ่มอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ จำนวน 6 บริษัท คือ บริษัท อิมเม็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท คังไท่ เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท เอ็ม แอนด์ พี เวิลด์ โพลิเมอร์ จำกัด, บริษัท เน็กซ์โปรดักส์ จำกัด, บริษัท เอส.เค.เพาเวอร์เอเบิล จํากัด, บริษัท เว่ย ฮาว โมลด์ จำกัด
- กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น จำนวน 1 บริษัท คือ บริษัท มาชาฮีโร่ จำกัด
- กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ จำนวน 8 บริษัท คือ บริษัท ดีคิว โอโล่ แอสเซท จํากัด, บริษัท กลัฟเท็กซ์ จำกัด, บริษัท เอชบีซี โพรดักซ์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด, บริษัท คิวรอน จํากัด, บริษัท ลาวิช (ไทยแลนด์) จํากัด, บริษัท อุตสาหกรรมมิตรมงคล จํากัด, บริษัท ไพพรรณรัตน์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด,
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการจัดโครงการ Thailand Trust Mark มาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงพาณิชย์ในการมุ่งมั่นที่จะรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ ของประเทศในด้านการเป็นแหล่งผลิตสินค้าคุณภาพผ่านตราสัญลักษณ์ T Mark ซึ่งนับได้ว่า การดำเนินงานนับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการจนถึงปัจุบันประสบความสำเร็จ เพราะสามารถสนับสนุนให้แบรนด์สินค้าและบริการของไทยเป็นที่รู้จัก และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลก
ในอีกด้านหนึ่ง Thailand Trust Mark ยังส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ให้ตระหนักรู้ในเรื่องสังคม สิ่งแวดล้อมและการผลักดันสินค้าให้ได้คุณภาพ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นในสินค้าไทย ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับตรา T Mark จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้า และได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
โดยผู้สนใจสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ T Mark และประชาชนทั่วไป สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandtrustmark.com หรือ สอบถามรายละเอียดที่ 02-507-8266, 095-592-5663 ในเวลาราชการ