กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แนะข้อควรรู้สารในถังดับเพลิงกับความเหมาะสมของการใช้งาน ช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าร้อน สภาพอากาศร้อนแห้งมากต้องระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้ในช่วงหน้าร้อนเป็นต้น วศ.ขอแนะนำการใช้งานถังดับเพลิงตามความเหมาะสมของการใช้งานโดยแต่ละชนิดจะบรรจุสารดับเพลิงที่มีความสามารถในการดับไฟแต่ละประเภทที่ไม่เหมือนกัน เช่น สารดับเพลิงชนิดผงเคมี ใช้ดับ
ไฟประเภท A B และ C สารดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ ใช้ดับไฟประเภท B และ C เป็นต้น
ข้อควรรู้ในการสังเกตุสัญญาลักษณ์ที่ถังดับเพลิงได้แก่
-ไฟประเภท A เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ
-ไฟประเภท B เกิดจากเชื้อเพลิงเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน
-ไฟประเภท C เกิดจากเชื้อเพลิง ที่มีกระแสไฟฟ้า
-ไฟประเภท D เกิดจากโลหะและสารเคมีที่ลุกติดไฟ เช่น ปุ๋ยยูเรีย
-ไฟประเภท K เกิดจากเชื้อเพลิงน้ำมันทำอาหาร เช่น น้ำมันพืช
การใช้ถังดับเพลิงที่มีสารดับเพลิงที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โลหะหนักที่พบในสารดับเพลิงจะถูกปลดปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมในขณะใช้งาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้งานและสะสมในสิ่งแวดล้อมในการใช้ถังดับเพลิง ควรเลือกใช้แบบที่มีการรับรองแล้วว่า สารดับเพลิงที่ใช้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
ทั้งนี้กองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค กรมวิทยาศาสตร์บริการ ให้บริการทดสอบหาปริมาณโลหะเป็นพิษในสารดับเพลิง ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ในการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐานปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กลุ่มเคมีภัณฑ์ กองเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อุปโภค โทร. 02 201 7000 ในวันและเวลาราชการ ที่มาข้อมูล :เพจ Doctor D. เป็นเพจข้อมูลวิทยาศาสตร์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร จำเป็นต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ควบคุมดูแลข้อมูลโดยนักวิทยาศาสตร์ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ
……………………………………………………….