วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2561 เวลา 11.00 น. ณ ห้องโถงกลาง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดยองค์การสหประชาชาติ (UNITED NATIONS) ได้ประกาศให้ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” (Participation, Development and Peace) เพื่อที่จะมุ่งเน้นให้เยาวชน ซึ่งหมายถึงหนุ่มสาวที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตและสามารถช่วยสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ (สยช.) ในขณะนั้น จึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบให้มีวันเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ
นายวิทัศน์ กล่าวว่า วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8ซึ่งทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ จึงถือได้ว่าเป็นวันสิริมงคลที่เยาวชนควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เยาวชนจึงควรกระตือรือร้น ในการพัฒนาตนเองและประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ เฉกเช่นยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์
นายวิทัศน์ กล่าวเพิ่มเติม เป้าหมายของวันเยาวชนแห่งชาติที่สำคัญมี 3 ประการคือ 1. เพื่อให้เยาวชนช่วงอายุ 18-25 ปี ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในการพัฒนาตนเองพัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ 2. เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติ ทั้งในด้านคุณภาพและคุณธรรม 3. เพื่อให้นโยบายส่งเสริม และพัฒนาเยาวชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องสัมฤทธิ์ผล
นายวิทัศน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่มุ่งหวังเชิดชูเด็กเยาวชน บุคคล องค์กรที่ทำงานด้านการพัฒนาสังคมต้นแบบ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างแรงจูงใจ แก่ผู้ทำคุณงามความดี มีความสามารถเป็นแบบอย่าง มีสภาวะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมากขึ้น สามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ เผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อผลักดัน กระตุ้นให้เกิดการส่งเสริมเยาวชน บุคคลที่เป็นแบบอย่างอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการสรรหาและเชิดชูเด็ก และเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน 11 สาขา จำแนกเป็น ประเภทเด็กและเยาวชน กลุ่มเด็กและเยาวชน บุคคล และองค์กร มีผู้ส่งผลงานเข้ารับการพิจารณารวมทั้งสิ้น 796ราย และผ่านการพิจารณาเป็นเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ 104 ราย กลุ่มเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ 18 กลุ่ม บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ๑๗ ราย และองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน 9 องค์กร รวมทั้งสิ้น 148 รายได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี (พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข) เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบโล่เกียรติยศและ เกียรติบัตร ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2561 เวลา 14.00 น. ณ อาคารห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพค เมืองทองธานี