วันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดโครงการมหกรรม เพื่อขับเคลื่อนภารกิจการคุ้มครองและพัฒนาอาชีพผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูบุคคลที่เป็นคนเก่ง ดี และมีอาชีพ โดย นางลักษณา อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อานวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี กล่าวรายงาน กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้รับบริการรุ่นที่ 61 คณะเจ้าหน้าที่ ครู และนักเรียนจากโรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 รวมทั้งสิ้น 250 คน
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) มีภารกิจในการคุ้มครองและพัฒนาอาชีพผู้ประสบปัญหาทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน หรือผู้มีรายได้น้อย การขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวโดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ที่อยู่ภายใต้ สค. ซึ่งมีอยู่ 8 แห่งทั่วประเทศ และได้ตระหนักถึงความสาคัญของผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยมุ่งให้สตรีและครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้สาเร็จการฝึกอบรมจากศูนย์ฯ ไปเป็นจานวนมาก และหลายคนประสบความสาเร็จในการมีงานทา มีอาชีพมั่นคง ส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สาหรับโครงการมหกรรม “เก่ง ดี มีอาชีพ” จัดขึ้นโดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ในการสร้างโอกาสให้กับผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ได้มีเวทีในการแสดงศักยภาพ ทักษะ ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนแต่ละหลักสูตรที่เข้ารับการฝึกอบรม ทั้งยังได้แสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ มีการนาเสนอผลงานหรือผลิตภัณฑ์จากการฝึกอาชีพ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมพลัง สร้างความตระหนักในคุณค่าของตนเอง และส่งเสริมให้ผู้รับการฝึกอบรมได้รับความรู้มีอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายให้แก่ตนเองและครอบครัว โดยการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพและการดาเนินชีวิต
นายเลิศปัญญา กล่าวต่อไปว่า สาหรับผู้ที่จบการฝึกอาชีพจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวไปแล้ว ทาง สค. ก็ได้ติดตามดูความเจริญก้าวหน้าของพวกเขาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเห็นได้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และส่วนใหญ่เมื่อประสบความสาเร็จพวกเขาก็ยังกลับบมาถ่ายทอดความสาเร็จให้น้อง ๆ รุ่นหลัง ๆ ต่อไปอีกด้วย ในวันนี้ก็เช่นกัน ที่รุ่นพี่กลับมาร่วมกิจกรรมถ่ายทอดประสบการณ์ให้รุ่นน้องได้ฟัง และยังมีการสาธิตและฝึกทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จัดแสดงนิทรรศการความรู้รณรงค์ป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การสงเคราะห์และคุ้มครองเด็ก และการป้องกันการค้าประเวณี รวมถึงการจัดแสดงผลงานและผลิตภัณฑ์จากผู้เข้ารับการฝึกวิชาชีพ รุ่นที่ 61 อีกทั้ง ได้มีการมอบเกียรติบัตร “คนเก่ง ดี มีอาชีพ” ให้แก่ศิษย์เก่าที่ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพ จานวน 7 ราย ซึ่งเป็นตัวอย่างของผู้ที่เคยเข้ารับการฝึกอาชีพจากศูนย์ฯ และนาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ได้จริงในการประกอบอาชีพ ทาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น มีเวลาดูแลครอบครัว ส่งผลให้ครอบครัวมีความอบอุ่นและเข็มแข็ง ได้แก่ คุณมุจลินท์ ผาติชล (นก) แผนกตัดผมชาย “เมื่อก่อนว่างงาน ไม่มีรายได้ ปัจจุบันสามารถเปิดร้านแฮปปี้บาร์เบอร์เป็นของตนเอง ทาให้มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัวและมีชีวิตดีขึ้น” คุณการเกณ วิสิทธิ์ (เกด) แผนกตัดเย็บเสื้อผ้า “เดิมเป็นพนักงานแคชเชียร์ในบริษัทเงินเดือนน้อย มีค่าใช้จ่ายเยอะ หลังฝึกอบรมเสร็จได้นาความรู้มาใช้จริง ทาให้มีอาชีพเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร และมีรายได้ดีขึ้นกว่าเดิม” คุณทิวาพร วรรณโร (เกด) แผนกนวดแผนไทย “เดิมเป็นเกษตรกร ปัจจุบันเป็นพนักงานร้านนวดที่ตลาดนัดจตุจักร และสามารถนาความรู้ไปใช้ดูแลสุขภาพของตนเอง และคนในครอบครัว ที่สาคัญมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นด้วย” คุณจรรยา สามิโส (จ๊ะเอ๋) แผนกเสริมสวยสตรี 2 “เมื่อก่อนทางานโรงงาน ตอนนี้เป็นผู้ช่วยช่างทาผมประจาอยู่ที่ร้านเสริมสวยชลาชล ทาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น” คุณเพ็ญทิพย์ เทพรส (แอน) แผนกเสริมสวยสตรี 1 “เดิมเป็นผู้ช่วยพยาบาล ปัจจุบันเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง (แอนบิวตี้) มีเวลาดูแลครอบครัว ทาให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น” คุณภัคจิรา ทีฆรัตนมงคล (กิ๋ว) แผนกอาหารและเบเกอรี่ “เดิมเป็นแม่บ้านดูแลลูก ไม่มีรายได้ ปัจจุบันทาธุรกิจออนไลน์รับออร์เดอร์ทาเบเกอรี่ ประทับใจศูนย์ฯ เพราะไม่ได้ให้แค่อาชีพ แต่เป็นการให้ความรู้ทักษะต่าง ๆ ติดตัวเราไปตลอดชีวิต” และคุณกานต์รวี สฤษดิ์เกรียง (เล็ก) แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ “เดิมประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า รายได้ไม่แน่นอน ประทับใจศูนย์ฯ อบรมให้ฟรี อาจารย์ที่สอนก็มีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการสอน เพื่อให้ศิษย์ที่มาเรียนสามารถนาความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพได้จริง ๆ จนตอนนี้ชีวิตดีขึ้นมาก มีรายได้เพิ่มจากเดิม”
“บุคคคลตัวอย่างทั้ง 7 ท่านนี้ แสดงให้เห็นถึงการได้รับโอกาสและการเข้าถึงบริการสวัสดิการทางสังคมที่รัฐจัดให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง และโครงการมหกรรม “เก่ง ดี มีอาชีพ” สะท้อนให้เห็นถึงการดาเนินงานขับเคลื่อนตามนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน ให้ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และผู้ที่แสดงออกแตกต่างจากเพศที่กาเนิดให้สามารถดาเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี ผมหวังว่าการจัดโครงการในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมของศูนย์ฯ ทุกท่าน ให้เกิดความมุ่งมั่น บากบั่นขยันหมั่นเพียร เรียนรู้ และฝึกฝนเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ตนเองและครอบครัว สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ความสาเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยนาทักษะความรู้ที่ได้รับ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมจากศูนย์ฯ ไปปรับประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้สามารถดูแลตนเอง และครอบครัวได้อย่างเข้มแข็ง และเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดีต่อไป” นายเลิศปัญญา กล่าวในตอนท้าย