วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าไทย และนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาดโควิด 19 ร่วมแถลงข่าว โครงการสุขภาวะของคนทำงานด้วย Healthy Living และการประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม กรณีโควิด 19
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปัจจุบันไทยมีประชากรวัยทำงาน 37.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานในระบบ 17.1 ล้านคน ซึ่งพบว่าในกลุ่มนี้มีปัญหาสุขภาพจากการทำงาน เช่น ออฟฟิศซินโดรม ภาวะเครียด และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะ รวมทั้งสถานประกอบการต่าง ๆ กลับมาเปิดกิจการ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal เพื่อให้มีความปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการสุขภาวะของคนทำงานด้วย Healthy Living ขับเคลื่อนการให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างองค์กรน่าอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ในระยะแรกได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมหอการค้าไทย จัดโครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์สถานประกอบการฐานวิถีชีวิตใหม่ และจัดการประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม กรณีโควิด 19 เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการไทย เกิดความตระหนักถึงการดูแลแรงงานให้มีสุขภาพดี และป้องกันโรคให้กับแรงงานเป็นสถานประกอบการต้นแบบ “สถานประกอบการต้านโควิด 19 ในฐานวิถีชีวิตใหม่ : New Normal”
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปในวงกว้างทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ เกิดความตื่นตระหนกในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ควบคู่กับการฟื้นฟูประเทศในมิติต่าง ๆ โดยร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งจากข้อมูลการคัดกรองโรคโควิด 19 ของสำนักงานประกันสังคมพบว่า มีแรงงานในระบบป่วยด้วยโรคโควิด 19 จำนวนหนึ่ง กรมควบคุมโรค ได้เสนอมาตรการ แนวทางควบคุมป้องกันโรคสำหรับสถานประกอบการ เพื่อพัฒนาเป็นข้อกำหนด ของ ศบค. สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง กำหนดนโยบาย มาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพให้กับแรงงานไทย เพื่อให้สถานประกอบการเกิดความตระหนักถึงการดูแลสุขภาพแรงงาน ให้มีสุขภาพดี ปลอดภัย สามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคโควิด 19 ได้อย่างถูกต้อง โดยสถานประกอบการจะต้องดำเนินการ 3 ระดับ คือ เจ้าของกิจการ กำหนดนโยบาย มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ถ่ายทอดไปทุกส่วนในองค์กร ต่อยอดจากงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานประกอบการ, ฝ่ายบริหาร/ ฝ่ายบุคคล/ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ประเมินการติดเชื้อ ความเสี่ยงต่อสุขภาพ และระดับคนทำงาน ทำตามมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้จัดทำคู่มือประเมินความเสี่ยงในสถานการณ์โควิด สำหรับสถานประกอบการทุกขนาด เพื่อให้สามารถนาไปใช้ในการดูแลสุขภาพคนทำงานได้อย่างเหมาะสม
ด้านนางศิรินา ปวโรฬารวิทยา กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมขับเคลื่อนสนับสนุนมาตรการหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 และมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 ข้อปฏิบัติพื้นฐานของสถานประกอบการที่ภาครัฐได้กำหนด พร้อมทั้งประสานเครือข่ายและสมาคมต่าง ๆ สร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงของสถานประกอบการอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งได้จัดทำคู่มือสำหรับสถานประกอบการ ซึ่งมีมาตรการและแนวทางปฏิบัติพื้นฐานเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจการได้อย่างปลอดภัย ขอเชิญชวนสถานประกอบการ ได้เสนอโมเดล รูปแบบ วิธีการ การป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ให้กับพนักงาน และผู้มาใช้บริการในรูปแบบของคลิปวีดีโอ เพื่อส่งประกวด และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสถานประกอบการอื่น ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้ โครงการฯนี้ จะมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจของประเทศไทยในยุค New Normal
ด้านนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาดโควิด 19 กล่าวว่า ในส่วนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข และผลกระทบด้านเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาว กำหนดแนวทางการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือแก่สมาชิกภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ และแนวทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดภายในสถานประกอบการ จัดทำแนวทางการจัดการหลังเกิดการระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับการจัดประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการฯ นี้ สภาอุตสาหกรรมฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์โดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคน และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบนวัตกรรม หรือวิถีการดูแลตนเองในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และนำพาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย ให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ การประกวดคลิปฯ แบ่งตามสถานประกอบการ 3 ขนาด คือ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และจะได้รับเงินรางวัลพร้อมโล่รางวัลประเภทละ 5 รางวัล สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครและส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ที่ www.newnormalcontest.com หรือทาง QR Code ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2563 ประกาศผลการตัดสินในวันที่ 28 สิงหาคม 2563