วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นประธานในพิธีมอบโล่อาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ดีเด่น จำนวน 6 ราย และมอบเข็มและประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครคุมประพฤติที่ปฏิบัติงานครบระยะเวลา 25 ปี จำนวน 10 ราย โดยมี คณะผู้บริหารกรมคุมประพฤติ พร้อมด้วยอาสาสมัครคุมประพฤติ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมกรมคุมประพฤติ ชั้น 4 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรมคุมประพฤติจึงได้ยกเลิกการจัดงานวันอาสาสมัครคุมประพฤติ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 และได้ให้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศดำเนินการส่งมอบโล่ให้แก่อาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมดีเด่น จำนวน 98 ราย พร้อมมอบเข็มและประกาศเกียรติคุณให้แก่ อาสาสมัครคุมประพฤติที่ปฏิบัติงานครบระยะเวลา 25 ปี จำนวน 282 ราย โดยกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มอบ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครคุมประพฤติที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณดังกล่าว โดยในส่วนของสำนักงานคุมประพฤติในกรุงเทพมหานคร ให้รับมอบโล่ เข็มและประกาศเกียรติคุณจากอธิบดีกรมคุมประพฤติ ซึ่งได้กำหนดจัดพิธีในวันนี้
ตามที่กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการนำภาคประชาชนในนามอาสาสมัครคุมประพฤติ (อ.ส.ค.) เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน ติดตามดูแลช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้กระทำผิดในชุมชน เพื่อให้อาสาสมัครคุมประพฤติได้ช่วยสนับสนุนภารกิจของกระทรวงยุติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง จึงจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า อาสาสมัครคุมประพฤติเป็นพลังสำคัญของกรมคุมประพฤติในการดำเนินตามแนวนโยบายคืนคนดีสู่สังคมของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการให้ความช่วยเหลือดูแลผู้กระทำผิดในชุมชนที่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติงานของ อ.ส.ค. จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ด้วยการทำงานเชิงรุกและเชิงรับ การเสริมพลัง อ.ส.ค. ให้มีศักยภาพในระดับสากล รวมถึงการส่งเสริมให้มีจิตอาสารุ่นใหม่เข้ามาเป็นแนวร่วมและกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาของสังคม
“กรมคุมประพฤติขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติ อ.ส.ค. ทุกท่าน นับเป็นผู้เสียสละกำลังกาย กำลังใจ กำลังความคิด และเวลา ด้วยการอุทิศตนทำงานเพื่ออำนวยประโยชน์สุขต่อสังคม ประเทศชาติ และเป็นเครือข่ายที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจในระดับพื้นที่ เพื่อเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้กระทำผิด เพื่อคืนคนดีสู่สังคม
รวมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชนและสังคม ตลอดจนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวในตอนท้าย
……………………………………………………………