กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการร่วมประชุมหารือแนวทางการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ละลอกที่ 2 พร้อมลงพื้นที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีและปลอดภัย
วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันโรคโควิด 19 ระลอกที่ 2 ณ โรงเรียน มาบตาพุดพันพิทยาคาร อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ว่า จากสถานการณ์การพบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด 19 ชาวต่างชาติในพื้นที่จังหวัดระยอง และกรุงเทพมหานคร ทำให้มีนักเรียนและบุคลากรเป็นกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันดังกล่าว ส่งผลให้สถานศึกษาหลายแห่งมีการปิดการเรียนการสอนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นั้น กรมอนามัย ขอความร่วมมือสถานศึกษาทุกแห่งคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 โดยมีแนวปฏิบัติ 6 มาตรการหลัก ดังนี้ 1) คัดกรองวัดไข้และอาการเสี่ยงก่อนเข้าสถานศึกษา 2) สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 3) ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกฮอล์ อย่างเพียงพอ 4) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 – 2 เมตร 5) ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสที่มีการใช้ร่วมกันบ่อย ๆ และ 6) ลดความแออัด ไม่จัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสร่วมกัน หรือเหลื่อมเวลาทำกิจกรรมและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมรวมกันเป็นกลุ่ม
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า สถานศึกษาที่ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด 19 มีแนวปฏิบัติได้ ดังนี้ 1) ให้ปิดห้องเรียนที่มีผู้ป่วยยืนยัน ตั้งแต่ 1 ราย เพื่อทำความสะอาดเป็นเวลา 3 วัน กรณีมีผู้ป่วยมากกว่า 1 ห้องเรียน ให้ปิดชั้นเรียน เป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำความสะอาด ทั้งนี้ ให้พิจารณาปิดสถานศึกษา ตามข้อมูลการสอบสวนโรค 2) ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการสอบสวนควบคุมโรค 3) ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ต้องกักตัวสังเกตอาการที่บ้าน 14 วัน 4) หากผู้สัมผัสมีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบ และไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล 5) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะพิจารณาตรวจหาเชื้อโควิด 19 หากผู้สัมผัสมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ และ 6) เพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรอง การทำความสะอาด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสื่อสารให้ทุกคนในสถานศึกษาป้องกันตนเอง โดยสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อย ๆ
“ทั้งนี้ การป้องกันการแพร่กระจายโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา ควรปฏิบัติ ดังนี้ 1) สื่อสารกับผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูล และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 2) ปฏิบัติตาม 6 มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษาอย่างเข้มงวด และ 3) ดำเนินการร่วมกับ ผู้พิทักษ์อนามัยโรงเรียน เพื่อติดตามการปฏิบัติตามมาตรการและให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดและมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด นอกจากนี้ โรงเรียนควรประเมินตนเองตามแพลตฟอร์มไทยสต็อปโควิด (https://stopcovid.anamai.moph.go.th) เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 อย่างปลอดภัย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 19 กรกฎาคม 2563