วันที่ 5 กันยายน 2561 ณ ห้องแซฟไฟร์ 204-205 อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลงานแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 12
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีมอบรางวัล ว่า ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 12 “WorldSkills ASEAN Bangkok 2018”ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม 2561 – 2 กันยายน 2561 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยได้ส่งเยาวชนจำนวน 52 คน เข้าร่วมแข่งขัน 26 สาขา ซึ่งครบทุกสาขาอาชีพที่มีการจัดแข่งขัน เยาวชนไทยสามารถคว้า 16 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง และ 13 เหรียญฝีมือยอดเยี่ยม จากจำนวนเหรียญดังกล่าวทำให้ ไทยสามารถครองเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นการสะท้อนเห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ใน 3 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสและความเสมอภาค รวมไปถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สำหรับเจ้าภาพในครั้งต่อไป คือ ประเทศสิงคโปร์ (WorldSkills ASEAN Singapore 2020)
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับวันที่ (5 กันยายน 2561) กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรและรางวัลให้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เยาวชนทุกคน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างผลงานและชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ โดยเหรียญทอง 150,000 บาท เหรียญเงิน 75,000 บาท เหรียญทองแดง 40,000 บาท เหรียญฝีมือยอดเยี่ยม 20,000 บาท และรางวัลปลอบใจ 10,000 บาท เยาวชนที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ยังจะได้รับโอกาสในการคัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศเข้าร่วมแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 45 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองคาซาน สหพันธรัสเซีย (WorldSkills Kazan 2019) ระหว่างวันที่ 22-27 สิงหาคม 2562
นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนให้การสนับสนุนมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์ในการพัฒนาทักษะให้สูงขึ้น ให้กับน้องๆ เยาวชนที่เข้าแข่งขันอีกด้วย
“การพัฒนาทักษะฝีมือให้กับเยาวชน จำเป็นต้องร่วมกันในหลายภาคส่วน ซึ่งได้กำชับให้ กพร.ดำเนินการ ขยายความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษา สถานประกอบการและองค์กรเอกชน ให้เข้ามาร่วมสนับสนุนการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ตลอดจนให้ดูแลเยาวชนที่ผ่านการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ให้มีอนาคตที่สดใสสามารถนำทักษะความรู้ ความสามารถที่มีไปต่อยอดในการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองในการศึกษา การทำงานในอนาคตได้ และอยากฝากถึงเยาวชนอื่นๆ หากต้องการประสบความสำเร็จเหมือนกับเยาชนเหล่านี้จะต้องรู้จักพัฒนาตนเองให้มีทักษะความสามารถ และไขว้คว้าโอกาสด้วยตัวเองโดยเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ระดับภูมิภาคในการเป็นบันได้สำคัญในการก้าวสู่ระดับชาติ อาเซียน และนานาชาติต่อไป” รมว.แรงงาน กล่าว