การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสมุทรสงครามเชิญสื่อมวลชนทีมงานหนีห่าว ไทยแลนด์(พิธีกรภาษาจีน)แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสมุทรสาครและสมุทรสงคราม เริ่มต้นที่ศาลพันท้ายนรสิงห์ ต.โคกขามอ.เมืองจ.สมุทรสาคร นักท่องเที่ยวเดินทางมาขอพรและศึกษาประวัติศาสตร์เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่8(พระเจ้าเสือ)กษัตริย์องค์ที่29ของกรุงศรีอยุธยา เสด็จจากกรุงศรีอยุธยาโดยเรือพระที่นั่งเอกชัยเข้าคลองโคกขามเพื่อไปปากน้ำสาครบุรี(สมุทรสาคร)เรือพระที่นั่งเอกชัยเข้าคลองโคกขามโดยมีพันท้ายนรสิงห์เป็นนายเรือ คลองโคกขามสมัยนั้นคดเคี้ยวมากและน้ำไหลเชี่ยวทำให้หัวเรือพระที่นั่งเอกชัยไปชนกับกิ่งไม้ขนาดใหญ่ หัวเรือพระที่นั่งหักตกลงในคลองโคกขาม พันท้ายนรสิงห์กระโดดขึ้นฝั่งแล้วกราบฑูลขอให้ประหารชีวิตข้าพเจ้าตามกฏมณเที่ยรบาลที่ถือปฎิบัติกันมา ก่อนประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ขอให้ตั้งศาลเพียงตาขึ้นมาด้วยและปัจจุบันด้านหลังศาลพันท้ายนรสิงห์มีหลักประหารทำด้วยไม้ตะเคียนพร้อมกับศาลเพียงตานักท่องเที่ยวลอดศาลเพื่อเป็นสิริมงคล(เป็นเรื่องราวส่วนย่อเท่านั่น)นักท่องเที่ยวเดินทางไปขอพรได้ทุกเรื่อง แต่มากที่สุดมีคู่รักจะพากันไปขอให้คนรักมีความซื่อสัตย์ยึดถือตามกฎระเบียบเหมือนอย่างพันท้ายนรสิงห์ “แต่ชาวต.คลองโคกขามเรียกว่าศาลพ่อพันท้าย”แล้วเดินทางต่อมาศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดสมุทรสาครและถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดสมุทรสาครทุกวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปขอพรกันมาก องศ์เทวรูปเจ้าพ่อหลักเมืองมีเรื่องราวเล่าขานกันมาสมัยบ้านเมืองยังไม่เจริญมีแม่ค้าพายเรือค้าขายพบเทวรูปลอยน้ำมาจึงยกขึ้นมาแล้วตั้งไว้ริมแม่น้ำท่าจีนเมื่อพ่อค้าแม่ค้าผ่านไปมายกมือไหว้ขอพรประสพผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้และต่อมาชาวจีนในตัวเมืองมหาชัยสมุทรสาครใด้ร่วมกันจัดสร้างเป็นศาลขึ้นมาแล้วอัญเชิญองค์เทวรูปประดิษฐานเรียกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เสร็จแล้วข้ามเรือฝั่งมหาชัยไปท่าฉลอมเคยเป็นย่านการค้าขายของชาวจีนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นโดยเฉพาะสมัยรัชกาลที่5มีการจัดระบบราชการแผ่นดินของสยามประเทศขึ้นมาใหม่จึงได้ทรงโปรดฯยกตำบลท่าฉลอมเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอมแห่งแรกเพื่อขยายอำนาจการปกครองออกมาหัวเมืองสมุทรสาครและปัจจุบันชุมชนสุขาภิบาลท่าฉลอมมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั่งรถสามล้อถีบชมวิถีชีวิตชุมชนแวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์เช่นอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในสมุทรสาครและศาลเจ้าพ่อกวนอูเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของชุมชนแห่งนี้ ออกเดินทางต่อไปจ.สมุทรสงครามล่องเรือคลองอัมพวาเข้าตลาดน้ำยามเย็นมีทุกวันเสาร์วันอาทิตย์ พอยามค่ำๆน้ำขึ้นมาเต็มตลิ่งทำให้บรรยากาศตลาดน้ำบวกกับแสงไฟและนักท่องเที่ยวคึกคักในยามค่ำๆเรียกว่ามีชีวิตชีวา แล้วคณะทีมงานหนีห่าว ไทยแลนด์เข้าพักบ้านสวนอัมพวันรีสอรท์ติดสายน้ำบรรยากาศร่มรื่นสามารถนั่งเรือดูหิ่งห้อยและตลาดน้ำยามเย็นได้ด้วย รุ่งขึ้นเดินทางไปค่ายบางกุ้งอ.บางคนทีสมุทรสงครามเป็นค่ายประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาได้แล้วได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีและทรงโปรดฯให้สร้างค่ายบางกุ้งขึ้นมาเพื่อป้องกันข้าศึกโจมตีกรุงธนบุรี ต่อมาเมื่อกรุงธนบุรีหมดอำนาจค่ายแห่งนี้ถูกปล่อยให้เป็นค่ายร้าง ต่อมามีการบูรณะค่ายขึ้นมาใหม่เป็นค่ายอบรมลูกเสือของโรงเรียนต่างๆในจ.สมุทรสงครามและต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สำรวจเห็นว่าภายในค่ายบางกุ้งมีวิหารเก่าแก่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อนิลมณีส่วนตัววิหารมีรากต้นไทรและต้นโพธิ์กอดตัววิหารไว้เป็นสิ่งแปลกหาชมได้อยากจึงประชาสัมพันธ์เป็นอันซีนไทยแลนด์”เสร็จแล้วเดินทางไปตลาดร่มหุบสถานีรถไฟแม่กลองพ่อค้าแม่ค้านำแผงพืชผักผลไม้ตั้งวางขายริมทางรถไฟสายบ้านแหลมสมุทรสาคร รถไฟวิ่งมาสถานีแม่กลองก่อนจะถึงสถานีรถไฟเปิดอูดเสียงดังพ่อค้าแม่ค้าหุบร่มพร้อมกันก็เลยกลายเป็นภาพคลาดร่มหุบแม่กลอง เดินทางต่อไปสวนนพรัตน์รีสอรท์ตั้งริมแม่น้ำแม่กลองบรรยากาศวิวทิวทัศน์สวยงามมีห้องพักให้เลือกพักผ่อนตามแบบของชาวเมืองแม่กลองสมุทรสงคราม นักท่องเที่ยวสนใจจะเดินทางตามเส้นทางสมุทรสาครและสมุทรสงครามสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงครามโทรศัพท์03475-2847-8ได้ทุกวันเวลา08.30-16.30น ขอบคุณผอ.จิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสมุทรสงครามได้เชิญทีมงานหนีห่าง ไทยแลนด์(ภาษาจีน)ไปถ่ายทำแหล่งท่องเที่ยวในจ.สมุทรสาครและสมุทรสงครามเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในประเทศจีน(พี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์รายงาน)