กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน 25 มิถุนายน วันไอโอดีนแห่งชาติ รณรงค์ให้ร้านอาหารทั่วประเทศ ปรุงประกอบอาหารโดยใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพ ดำเนินการระยะแรกในช่วง 6 เดือน ครอบคลุมพื้นที่ 12 เขตสุขภาพรวมกรุงเทพมหานคร ตั้งเป้า 780 ร้าน หวังให้คนไทยได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอ
วันที่ 25 มิถุนายน 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานรณรงค์เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ “ผู้ประกอบการอาหาร ร่วมใจ ใช้เกลือเสริมไอโอดีน ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกวัย ต้องได้ไอโอดีน” ณ โถงอาคาร 1 กรมอนามัย โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เกลือเสริมไอโอดีนเป็นมาตรการหลักที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ในการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน และเนื่องจาก ในปัจจุบันประชาชนนิยมบริโภคอาหารนอกบ้าน หรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทานมากขึ้น ดังนั้น วันไอโอดีนแห่งชาติ 25 มิถุนายนปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยจึงรณรงค์ให้ร้านอาหารทั่วประเทศ ปรุงประกอบอาหารโดยใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพ และผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยระยะแรกจะเร่งดำเนินการในร้านอาหารที่ผ่านการประเมินได้รับป้ายสัญลักษณ์ อาหารสะอาด รสชาติอร่อย หรือ Clean Food Good Taste ของกรมอนามัย ในพื้นที่เป้าหมายเขตสุขภาพ ทั้ง 12 เขต รวมกรุงเทพมหานคร ดำเนินการในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 180 วัน ตั้งเป้าให้มีร้านอาหารที่ใช้ เกลือและผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน พื้นที่ละ 60 ร้าน รวมทั้งสิ้น 780 ร้านทั่วไทย เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายทุกวันร่วมกับการกินอาหารที่มีไอโอดีน ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอาหารทะเลซึ่งเป็นแหล่งของไอโอดีน เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาทู และสาหร่ายทะเลจะช่วยให้ไม่ขาดสารไอโอดีน
ทางด้าน แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ไอโอดีนเป็นสารอาหารที่มี ความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา สำคัญต่อการพัฒนาสมองของทารกตั้งแต่ 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ จนถึงอายุ 2-3 ขวบ ทารกในครรภ์ได้รับไทรอยด์ฮอร์โมนที่สร้างจากสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์สมอง มีความต้องการในการสร้างโครงข่าย ใยประสาทซึ่งการสร้างเหล่านี้จะเกิดต่อเนื่องไปจนถึงระยะ 2-3 ขวบ ถือเป็นช่วงโอกาสทองของการพัฒนาสติปัญญาและไอคิวของเด็กไทย หญิงตั้งครรภ์จึงต้องการไอโอดีนมากกว่าคนปกติประมาณวันละ 250 ไมโครกรัม เนื่องจากใช้ในการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ ซึ่งนอกจากการบริโภคอาหารแล้วยังจำเป็นต้องกินยาเม็ดเสริมไอโอดีนเพิ่มด้วย วันละ 1 เม็ด ทุกวันจนคลอด และช่วงให้นมบุตร 6 เดือน เพราะหากหญิงตั้งครรภ์ขาดไอโอดีนจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ และหากขาดรุนแรงอาจทำให้แท้ง หรือทารกพิการแต่กำเนิด ปัญญาอ่อน ร่างกายแคระแกรน
“สำหรับประชาชนทั่วไป หากใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพ ซึ่งสังเกตได้จากฉลากที่มีคำว่า เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน บนซองเกลือและมีเลข อย.กำกับ วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา (เกลือ 1 ช้อนชา เท่ากับ 5 กรัม มีไอโอดีนประมาณ 150 ไมโครกรัม) หรือผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่เสริมไอโอดีนตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับการกินอาหารที่มีไอโอดีนตามธรรมชาติ ก็สามารถได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ เพราะแม้ว่าร่างกายต้องการไอโอดีนเพียงวันละน้อย แต่ต้องการทุกวัน ไอโอดีนจึงจำเป็นสำหรับทุกมื้อ ทุกวัน และทุกวัย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
……………………………………
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ