สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ และไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ ทำให้มียอดผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 2,987 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.28 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 90 ราย หรือร้อยละ 2.87 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,135 ราย
จากสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจึงได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการ และวันนี้เป็นวันแรกที่ได้ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 ให้เปิดกิจการ/กิจกรรมในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ สถานศึกษา สถาบันกวดวิชา ร้านอาหาร สถานรับเลี้ยงเด็ก ระบบขนส่งสาธารณะ สวนสนุก สระว่ายน้ำ สนามกีฬา ลานกิจกรรม ศูนย์ประชุม กองถ่าย สปา เป็นต้น โดยผู้ประกอบการมีความสำคัญในการปรับรูปแบบกิจกรรมและสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมาตรฐานที่ภาครัฐกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ให้เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ/ที่นั่ง/การเดิน การควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด จัดจุดคัดกรอง จุดบริการแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสบ่อย เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและประชาชนที่มารับบริการ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าประมาทและคงเข้มในการป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน ตั้งแต่อายุ 20-39 ปี จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคพบว่า กลุ่มนี้มีผู้ติดเชื้อถึงประมาณร้อยละ 50 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มอายุที่อยู่ในวัยทำงานและมีร่างกายแข็งแรง เมื่อป่วยมักจะไม่แสดงอาการนับเป็นความเสี่ยงสำคัญ ซึ่งอาจเป็นผู้นำเชื้อกลับไปติดคนในครอบครัวและผู้ใกล้ชิดได้ ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัย/ผ้า เมื่อออกจากบ้านยังมีความสำคัญและควรปฏิบัติให้เป็นความเคยชิน ร่วมกับการเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่มีคนรวมกันจำนวนมาก เลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสบ่อย เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ ราวบันได ราวจับต่าง ๆ ให้ล้างมือบ่อย ๆ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่อย่างเคร่งครัด หากใช้บริการของระบบขนส่งสาธารณะให้นั่ง/ยืนในจุดที่กำหนดไว้เพื่อลดความแออัด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนส่วนตัวขอเน้นย้ำว่าการสวมเฟซชิลล์โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าร่วม จะไม่สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ สำหรับรายการเกมส์โชว์ที่ไม่สามารถสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าได้ แม้จะสวมเฟซชิลล์ต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร ด้วย หากทุกคนร่วมมือกันจะช่วยลดโอกาสในการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อีกครั้ง
………………………………………