วันที่ 14 มิถุนายน 2563 เวลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลังการพบปะเยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับพี่น้องประชาชน ที่ วัดช่องลม ตําบลบ้านปรก อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นายจุรินทร์ ตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่อง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ว่า เป็นวิสัยทัศน์ในการที่จะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่ดำเนินการไปโดยแยกส่วนซึ่งวิสัยทัศน์ของ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ใช้การตลาดนำการผลิต คือ ต่อไปนี้ในฐานะหน่วยผลิตคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเน้นการผลิตเป็นไปตามความต้องการของตลาดที่มีกระทรวงพาณิชย์เป็นกลไกหลัก ขับเคลื่อนนำผลผลิตทางการเกษตรทุกประเภทไปสู่การเปิดตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศและรูปแบบการเปิดตลาดก็เป็นทั้งตลาดอ๊อฟไลน์และตลาดออนไลน์
รวมทั้งตลาดเกษตรพันธสัญญา คือ การทำสัญญาล่วงหน้าระหว่างผู้ผลิตทางด้านการเกษตรกับผู้ซื้อ เพื่อให้มีหลักประกันของทั้งสองฝ่ายว่าฝ่ายผลิตที่เป็นเกษตรกร ถ้าผลิตสินค้าคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดแล้วก็จะได้ขายผลผลิตทางการเกษตรในราคาที่กำหนดคุณภาพที่กำหนดผู้ซื้อ ก็มีหลักประกันว่าต่อไปนี้จะได้ของที่มีคุณภาพตามที่ต้องการของตลาด ไม่ต้องไปเที่ยวค้นหาหรือว่าไปแย่งซื้อกัน อีกอันคือ เกษตรพันธสัญญารูปแบบที่ 4 นอกจากอ๊อฟไลน์ ออนไลน์กับเกษตรพันธสัญญาแล้วคือรูปแบบเคาน์เตอร์เทรดซึ่งรูปแบบเคาน์เตอร์เทรดก็จะเป็นรูปแบบของการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันในจังหวัดต่างๆ
“ผมให้เริ่มต้นแล้ว เช่น ขณะนี้พาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม อาจจะพาผลผลิตทางด้านการเกษตร เช่น มะพร้าว ซีฟู้ด หรือว่าพืชผลเกษตร ไปแลกกับข้าวหอมมะลิจากภาคอีสาน หรือไปแลกลองกองจากนราธิวาส ลำไยจากลำพูน เป็นต้น ส่วนเหลื่อมของมูลค่า เช่น มะพร้าว น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำตาลมะพร้าว 100,000 บาท เอาลำไยมาได้ 80,000 บาทขาดอีก 20,000 บาทก็ชำระเป็นเงินสดแทนหรือเอาของมาเพิ่มอีก 20,000 บาทให้กลายเป็น 100,000 บาท แล้วแลกกันก็ทำได้นี่คือเคาน์เตอร์เทรดซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องการดำเนินการ” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้แลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์สินค้าระหว่างกันภายใต้รูปแบบเคาเตอร์เทรด อันนี้คือ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” จะเน้นเรื่องการขายให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ส่วนภาคการเกษตรก็จะเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีมูลค่าสูง เพื่อให้มีรายได้เป็นไปตามความต้องการของตลาดไม่ว่าจะเป็นพืช ปศุสัตว์ ประมง เกษตรแปรรูป หรือเกษตรบริการ ยกตัวอย่างเช่นในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในเรื่องของการให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการ
……………………………………………………………………………………………….