วันที่ 13 มิ.ย. 63 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนายอุทัย ทองเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ณ บ้านช่างหม้อ ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อร่วมรับฟังการเสวนาชาวบ้านในหัวข้อ “การฟื้นฟูพัฒนาชุมชนหลังน้ำลด และ COVID-19” และเยี่ยมกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้แม่น้ำมูล พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านมั่นคง ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.
นายจุติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเปราะบางในบ้านช่างหม้อ พบเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการใน 73 ครอบครัวที่ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนและได้รับความเสียหาย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นลำดับแรก กระทรวง พม. จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ด้วยการซ่อมสร้างบ้านภายใต้โครงการบ้านมั่นคง ร่วมกับ พอช. โดยได้มีการสร้างใหม่ทั้งหลัง 5 หลัง และซ่อมบางส่วน 68 หลัง ขณะนี้ ได้ดำเนินการซ่อมสร้างเสร็จสิ้นไปแล้ว 65 หลัง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 8 หลัง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563 สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ ตนได้มอบบ้านโครงการ ร้อยใจ รวมไทย สู่ใจอีสาน (บ้านมั่นคง ชุมชนบ้านช่างหม้อ) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน อาทิกำลังพลจากค่าย ร.6 พัน 1 มณฑลทหารบกที่ 22 และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น อีกทั้งยังได้มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการครัวกลางจังหวัดอุบลราชธานี และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วม จำนวน 65 ครัวเรือน
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลดอนจิก อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะเยี่ยมประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือต่างๆ ได้แก่ มอบเงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ เงินปรับสภาพบ้านผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก เงินสงเคราะห์แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาโรคโควิด-19 และเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน รวมทั้งมอบนมผงสำหรับเด็กยากจนและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ
…………………………………………………………………………….