วันที่ 12 มิถุนายน 2563 เวลา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเรื่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างอ่อนลง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำฝนในประเทศลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องของพายุดีเปรสชั่นที่กำลังก่อตัวอยู่ในบริเวณประเทศฟิลิปินส์มีแนวโน้มเส้นทางที่จะขึ้นทางจีนตอนใต้ ซึ่งอาจส่งผลให้วันพรุ่งนี้มีแนวโน้มที่จะมีฝนตกมากขึ้น และเมื่อวานนี้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีการประชุม และเลขาสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลว่าทางกรมอุตุฯ มีการคาดการณ์ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปถึงกลางเดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มที่จะเกิดฝนทิ้งช่วงลักษณะเช่นนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการติดตามสภาพอากาศชั้นบนประจำวันมีการ LIVE ผ่านเพจ FACEBOOK กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เวลา 10.30 น. เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ โดยร่วมมือกับเหล่าทัพที่สนับสนุนอากาศยาน เพื่อที่จะร่วมด้วยช่วยกันดูแลพื้นที่ของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ลดความเสี่ยงและความเสียหายต่อผลผลิต สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน ๙ หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่บางส่วนของ จ.กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย น่าน เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สกลนคร นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี พื้นที่ลุ่มรับน้ำ เขื่อนจำนวน ๕ แห่ง อ่างเก็บน้ำจำนวน ๑๒ แห่ง และบริเวณพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง
ด้านแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2563 จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกประกาศเขตพื้นที่ภัยแล้ง มีจำนวน 15 จังหวัด 94 อำเภอ 508 ตำบล 3 เทศบาล 4,685 หมู่บ้าน/ชุมชน บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ภาคกลางและภาคตะวันออก 7 จังหวัด ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำใช้การ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน ๓3 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 227 แห่ง ด้านประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในวันนี้ ไม่มีพื้นที่เสี่ยงภัยตกหนักถึงหนักมาก สำหรับข้อมูลการขอรับบริการฝนหลวง ณ วันที่ ๑1 มิ.ย. ๒๕๖๓ พบว่ามีผู้ขอรับบริการฝนหลวงจากทั่วทุกภูมิภาคจำนวน 756 แห่ง (56 จังหวัด 389 อำเภอ) สอดคล้องกับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมรายสัปดาห์ ที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมในระดับ 10-100 มิลลิเมตร ซึ่งทางทางกรมฝนหลวงฯ จะนำมาวางแผนและขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงให้กับพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำอย่างทั่วถึงต่อไป
ส่วนการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในวันนี้ ผลการตรวจอากาศ จากสถานีเรดาร์ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในช่วงเช้านี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายโดยหน่วยปฏิบัติการฯ
8 หน่วย ได้แก่
– หน่วยปฏิบัติการฯ จ.แพร่ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ. น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนสิริกิติ์
– หน่วยปฏิบัติการฯ ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ชัยนาท และนครสวรรค์
– หน่วยปฏิบัติการฯ ราชบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำในพื้นที่ภาคกลาง
– หน่วยปฏิบัติการฯ ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.หนองบัวลำภู อุดรธานี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนห้วยหลวง
– หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ
– หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เสี่ยงของการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จ.ศีรสะเกษ และอุบลราชธานี
– หน่วยปฏิบัติการฯ จ.อุดรธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำ จ.มุกดาหาร นครพนม สกลนคร และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนน้ำพุง
– หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สงขลา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง และพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความเค็มทะเลสาบสงขลา
สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ในพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ หน่วยฯ ชุมพร และหน่วยฯ
สุราษฎร์ธานี ขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน หากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวง จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งนี้ เกษตรกร และพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทางเพจ Facebook, Line official account, Instagram, Twitter และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
12 มิถุนายน 2563