กรมอนามัย-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่ Let’s Relax เตรียมความพร้อมตามมาตรการผ่อนคลาย

กรมอนามัยและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ของ Let’s Relax สาขาสุขุมวิท 39 เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมตามมาตรการผ่อนคลายสำหรับกิจการประเภทนวดเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย สปาเพื่อสุขภาพ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด 19

วันที่ 1 มิถุนายน 2563 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง การลงพื้นที่ Let’s Relax สาขาสุขุมวิท 39 กรุงเทพมหานคร ว่า สถานประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ สปา เป็นสถานที่ให้บริการเกี่ยวกับการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพ โดยวิธีการบำบัดด้วยน้ำและการนวดร่างกายเป็นหลัก อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อทั้งจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ กรมอนามัยและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามการปฏิบัติตามมาตรการ ผ่อนคลายกิจการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับกิจการประเภท นวดเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย สปา โดยเจ้าของสถานประกอบกิจการ ต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1) ดำเนินการประเมินตนเองของ สถานประกอบการในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 2) กำหนดจุดคัดกรองพนักงานและผู้มารับบริการ บันทึก รายชื่อ เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ วันที่และเวลา หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ กรณีต้องมีการสอบสวนโรค 3) จำกัดจำนวนผู้มารับบริการที่อยู่ในร้าน และไม่ให้นั่งรอภายในร้าน โดยให้นัดหมายล่วงหน้า และให้บริการลูกค้าแต่ละรายไม่เกิน 2 ชั่วโมง 4) จัดที่ล้างมือพร้อมสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ไว้บริการในบริเวณต่างๆ ของร้านอย่างเพียงพอ

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า ข้อถัดมา คือ 5) จัดห้องให้บริการนวด 1 คนต่อห้อง กรณี ห้องรวมให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร โดยมีม่านกั้นเป็นสัดส่วน 6) จัดสถานที่สำหรับเก็บผ้าและอุปกรณ์ของผู้รับบริการให้มิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค โดยเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าขนหนู ให้บริการ 1 คนต่อครั้ง ไม่ให้ใช้ซ้ำ 7) ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ หลังให้บริการทุกครั้ง และในบริเวณจุดเสี่ยงที่มีคนสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู เคาน์เตอร์รับบริการ ราวบันได อ่างล้างมือ โต๊ะ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องพักผ่อน รวมถึงห้องส้วมและห้องอาบน้ำ ทุก 2 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาทำความสะอาด และอาจฆ่าเชื้อโรคด้วยแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1 เปอร์เซ็นต์ (น้ำยาฟอกขาว) 8) จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีภายในร้าน ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศภายในร้านสม่ำเสมอ ในกรณีที่มีการจัดบริการน้ำดื่ม ภาชนะบรรจุน้ำดื่มและการจัดบริการน้ำดื่มต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ แก้วน้ำให้ใช้แบบครั้งเดียวทิ้ง

​“พนักงานหรือผู้ให้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า สวมแผ่นใสครอบหน้า (Face Shield) และสวมชุดปฏิบัติงานที่สะอาดทุกครั้งที่ให้บริการ รวมทั้งให้สังเกตอาการตนเองและดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด งดหรือเลี่ยงการพูดคุยเกินความจำเป็นขณะให้บริการ หลังบริการต้องเก็บผ้าปูเตียง ปลอกหมอน เสื้อผ้าใช้แล้ว ผ้าขนหนู ให้ม้วนออกห่างจากตนเอง และไม่ควรสะบัดผ้า เพราะจะทำให้เกิดการฟุ้งกระจาย หากพบว่าผู้รับบริการมีบาดแผลควรงดให้บริการ สำหรับผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อไปใช้บริการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานประกอบกิจการอย่างเคร่งครัด ภายหลังการใช้บริการควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนหยิบจับของใช้ส่วนตัว และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด


ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 1 มิถุนายน 2563