โอกาสทองโชวห่วยไทยมาถึงแล้ว… พาณิชย์’ เปิดตัวแอพพลิเคชั่น “โชวห่วย-ไฮบริด” ดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 30,000 แห่ง เป็น Outlet จำหน่ายสินค้าชุมชน โอทอป MOC Biz Club และ SMEs เชื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวแอพพลิเคชั่น “โชวห่วย-ไฮบริด” อย่างเป็นทางการ เชิญร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าส่งค้าปลีก และผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอทอป MOC Biz Club และ SMEs เข้าร่วมรับฟังระบบการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ พร้อมดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ เป็น Outlet จำหน่ายสินค้าชุมชน โอทอป MOC Biz Club และ SMEs เชื่อเป็นช่องทางกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง มั่นใจสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน ‘ยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสู่การเป็นโชวห่วยไฮบริด’ และปาฐกถาพิเศษหัวข้อ ‘โชวห่วย-ไฮบริด Omni-Channel โอกาสของโชวห่วยไทย’ วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเอเชีย ราชเทวี กรุงเทพมหานคร ว่า “กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการ “โชวห่วย-ไฮบริด” ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการ “ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ” ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนร้านค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดเล็กในทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 11.4 ล้านคน ตลอดจนเร่งยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้มีความแข็งแกร่งทั้งในส่วนของการประกอบธุรกิจ และการขยายช่องทางการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วยบริหารจัดการ”
“ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้บูรณาการให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และสินค้าเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นการยกระดับร้านค้าฯ ให้กลายเป็น ‘ร้านโชวห่วย-ไฮบริด’ ซึ่งร้านค้าฯ นอกจากจะจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคผ่านทางหน้าร้านปกติแล้ว ยังสามารถจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และสินค้าเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย ทำให้เกิดรายได้แก่ร้านค้าอีกทางหนึ่ง เพียงเจ้าของร้านค้าฯ มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือ แทปเลท และดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งแอพพลิเคชั่น “Shohuayhybrid” (โชวห่วย-ไฮบริด) ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ และเป็นช่องทางกระจายสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ รวมถึงร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้ากลุ่มดังกล่าวได้อย่างสะดวกและหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ากับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าปลีกขนาดเล็กอีกด้วย”
รมว.พณ. กล่าวต่อว่า “สำหรับแอพพลิเคชั่น “Shohuayhybrid” (โชวห่วย-ไฮบริด) เปิดโอกาสให้ร้านค้าและผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการยกระดับตนเองสู่การจำหน่ายสินค้าแบบคู่ขนานทั้งช่องทางแบบดั้งเดิม (ออฟไลน์) และออนไลน์ หรือที่เรียกว่า กลยุทธ์การค้าหลากช่องทาง (Omni-Channel) สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Shohuayhybrid” (โชวห่วย-ไฮบริด) เข้าไปติดตั้งในโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนหรือแทปเลท จากนั้นให้แสดงการยืนยันตัวตนการเป็นร้านค้าหรือผู้ผลิตสินค้าเพื่อเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น จากนั้นผู้ประกอบการจะได้รับชุดรหัสผ่าน (Token) เพื่อเข้าใช้งาน โดยผู้ผลิตสินค้าจะสามารถอัพโหลดสินค้าของตนเองเข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งรายละเอียดต่างๆ อาทิ ราคาจำหน่าย เงื่อนไขการจำหน่ายสินค้า เป็นต้น ในส่วนของร้านค้าจะสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเพื่อสั่งซื้อสินค้าจากระบบโดยตรง และสามารถนำรายการสินค้าทั้งหมดในระบบให้ลูกค้าพิจารณาตัดสินใจสั่งซื้อได้ โดยไม่ต้องสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเก็บไว้ในร้าน หรือเรียกว่าระบบ “Virtual SKU” ทั้งนี้ ในระยะแรก ได้พัฒนาให้รองรับโทรศัพท์ที่ใช้เฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เท่านั้น ระยะถัดไปจะมีการพัฒนาให้สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ IOS ได้”
“นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น “Shohuayhybrid” (โชวห่วย-ไฮบริด) ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าปลีกรายย่อย สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางผู้จำหน่ายสินค้า (Trader) ได้ด้วย โดยรวบรวมสินค้าคุณภาพดีในท้องถิ่นของตนเองมาอัพโหลดเข้าสู่ระบบฯ อันจะเป็นการสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง”
“กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำนวน 30,000 แห่งทั่วประเทศเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น “Shohuayhybrid” (โชวห่วย-ไฮบริด) เพื่อยกระดับสู่การเป็น Omni-Channel Retail ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ผลิตสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club สินค้าเอสเอ็มอี และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ผลิตสินค้าฯ ขายของได้ – ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดการหมุนเวียนได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นช่องทางกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง” รมว.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ในปี 2560 ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั้งประเทศมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1.83 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.9 ของ GDP ประเทศไทย เป็นอันดับ 3 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 32.6) และภาคการผลิต (ร้อยละ 27.7) เกิดการจ้างงานกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของการจ้างงานทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 44.8)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5986 e-Mail : bizpromotion.dbd@gmail.com สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th
***************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า