สมุนไพรน่ารู้ อภัยภูเบศร : ต่อมลูกหมากโต กับสมุนไพร

ภาวะต่อมลูกหมากโตส่วนใหญ่จะมีสาเหตุจากความเสื่อมอันเป็นธรรมดาของสังขาร เนื่องจากเนื้อเยื่ออ่อนบางจุดอยู่ในภาวะที่ถูกกระตุ้นให้หลั่งสารออกมามากเกินไป เมื่อศักยภาพในการผลิตตามธรรมชาตินี้ลดน้อยลง ร่างกายจึงชดเชยด้วยการสร้างเซลล์จำนวนมากขึ้นเพื่อคงระดับการหลั่งสารของต่อมลูกหมาก จึงทำให้มีขนาดโตขึ้น
อาการต่อมลูกหมากโต

  1. ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไหลน้อย ปัสสาวะไม่สุด
  2. รู้สึกปวดหรือไม่สบายเวลาถ่ายปัสสาวะ
  3. ปวดปัสสาวะฉับพลัน ถ่ายปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืนอาจมีปัสสาวะเล็ดโดยไม่รู้สึกตัว
  4. กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
  5. หากดูแลไม่ดีมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้

สุขภาพของต่อมลูกหมาก ขึ้นอยู่กับระบบเมแทบอลิซึมที่ดีของต่อม คือ ต้องมีการไหลเวียนเลือดที่ดี และการป้องกันสารคัดหลั่งไม่ให้แห้งและข้นหนืดจนเกินไป   หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งจะไปกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (sympathetic nervous system) ทำให้เลือดมาเลี้ยงร่างกายช่วงล่างน้อยลง และเป็นอันตรายต่อต่อมลูกหมากในระยะยาวได้

แนวทางการดูแลต่อมลูกหมาก

  1. ดื่มชาสมุนไพร เช่น หญ้าหนวดแมวเป็นประจำ จะช่วยดูแลไต และขับปัสสาวะ (แต่ห้ามใช้กรณีโรคหัวใจ ไตวายเรื้อรังเนื่องจากโพแทสเซียมสูง)
  2. พืชตระกูลแตง เช่นฟักเขียว ดีที่สุดสำหรับต่อมลูกหมาก รับประทานผลรวมทั้งยอดอ่อนช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโต
  3. มะเขือเทศสุก แครอท หอมแดง เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และธัญพืชทั้งเมล็ด โดยนำมาเป็นส่วนประกอบอาหารให้ได้ทุกวัน และรับประทานผัก เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดอก และกะหล่ำปลี (แนะนำดื่มน้ำมะเขือเทศต้ม)
  4. รับประทานสมุนไพรที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นหล่อลื่นให้ระบบสืบพันธุ์ เช่น รากสามสิบ วุ้นว่านหางจระเข้ น้ำซุปถั่วเขียว เป็นประจำ
  5. หมั่นเคลื่อนไหวร่างกายท่อนล่างเป็นประจำ เช่น เดินวันละ 30 นาที หรือทำโยคะในท่าที่มีการเปิดสะโพกจะเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังส่วนล่างของร่างกาย
  6. ห้ามกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ และระวังท้องผูก การไหลเวียนที่ดีของวาตะ(ธาตุลม) ขึ้นอยู่กับการไหลเวียนที่ไม่ถูกยับยั้ง รวมทั้งการมีกิจกรรมทางเพศเมื่อร่างกายต้องการ! แต่ต้องไม่มากเกินไป มิฉะนั้นความไม่สมดุลของวาตะจะยิ่งเลวร้ายขึ้น!!
  7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อรักษาสภาพการไหลของสารคัดหลั่ง
  8. ดูแลธาตุไฟ เพื่อให้ระบบย่อยเป็นปกติ จะทำให้ธาตุไฟของต่อมลูกหมากทำงานได้ดี หลีกเลี่ยงอาหารที่แห้งหรือมันเกินไป ร้อนหรือเย็นเกินไป เผ็ดร้อนเกินไป หรือไม่เผ็ดร้อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงความสุดโต่ง
  9. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ เนื่องจากทำให้เกิดความไม่สมดุลในเนื้อเยื่อเลือด

10 ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้หาช่วงพักสั้นๆ หลายๆ ครั้ง และพยายามยืดเส้นยืดสาย หรือออกไปเดิน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนพลังงาน เลือด และสารอาหารไปยังบริเวณต่อมลูกหมาก

11 การนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเป็นบางครั้ง มีศาสตร์การนวดป้องกันต่อมลูกหมากโต

12 นอนหลับลึกอย่างเพียงพอในแต่ละคืน

13 นั่งหรือนอนแช่น้ำอุ่น เพื่อช่วยลดการคั่งของต่อมลูกหมาก

สูตร น้ำมะเขือเทศ รักษาต่อมลูกหมากโต

ในมะเขือเทศ มีสารไลโคปีน (Lycopene) ในปริมาณที่สูงมาก  ซึ่งไลโคปีนเป็นสารที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ปกติในร่างกาย ที่อาจกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งในอนาคต และช่วยลดสาร PSA ที่มันจะมีในคนที่ เป็นต่อมลูกหมากโต และมีแนวโน้มเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเขือเทศที่ปรุงสุก จะช่วยให้ร่างกายได้รับไลโคปีนได้มากกว่าการรับประทานมะเขือเทศสด ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโตได้ถึง 35%

การศึกษา จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ  ได้ทำการเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคอาหารและไลฟ์สไตล์ ของผู้ชายกว่า 1,800 คน อายุระหว่าง 50-69 ปี ที่ป่วยจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง 12,000 คน จากผลการสำรวจพบว่าผู้ชายที่รับประทานมะเขือเทศ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่า 18% (ที่มาวารสารCancer Epidemiology Biomarkers and Prevention )

สูตรน้ำมะเขือเทศ/วิธีทำ

  1. มะเขือเทศสด 200 กรัม ล้างสะอาด
  2. ปั่นให้ละเอียด (มะเขือเทศสด 200 กรัม มีค่าสารไลโคปีนใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น 50 กรัม)
  3. นำไปต้มประมาณ 20-30 นาที
  4. ดื่มหลังอาหารเช้าวันละ1ครั้ง (ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน)
  5. หรือเลือกซื้อน้ำมะเขือเทศสำเร็จรับประทานได้เช่นกัน

ข้อห้ามใช้

ผู้ป่วยโรคไต  ผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผู้ที่ต้องควบคุมระดับโพแทสเซียมเนื่องจาก มะเขือเทศมีโพแทสเซียมสูง

อ้างอิง

  1. บันทึกของแผ่นดิน10 สมุนไพรเพื่อสุขภาพท่านชาย
  2. https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/275/มะเขือเทศกับไลโคพีน/

ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร