ภาวะต่อมลูกหมากโตส่วนใหญ่จะมีสาเหตุจากความเสื่อมอันเป็นธรรมดาของสังขาร เนื่องจากเนื้อเยื่ออ่อนบางจุดอยู่ในภาวะที่ถูกกระตุ้นให้หลั่งสารออกมามากเกินไป เมื่อศักยภาพในการผลิตตามธรรมชาตินี้ลดน้อยลง ร่างกายจึงชดเชยด้วยการสร้างเซลล์จำนวนมากขึ้นเพื่อคงระดับการหลั่งสารของต่อมลูกหมาก จึงทำให้มีขนาดโตขึ้น
อาการต่อมลูกหมากโต
- ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไหลน้อย ปัสสาวะไม่สุด
- รู้สึกปวดหรือไม่สบายเวลาถ่ายปัสสาวะ
- ปวดปัสสาวะฉับพลัน ถ่ายปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืนอาจมีปัสสาวะเล็ดโดยไม่รู้สึกตัว
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- หากดูแลไม่ดีมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้
สุขภาพของต่อมลูกหมาก ขึ้นอยู่กับระบบเมแทบอลิซึมที่ดีของต่อม คือ ต้องมีการไหลเวียนเลือดที่ดี และการป้องกันสารคัดหลั่งไม่ให้แห้งและข้นหนืดจนเกินไป หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งจะไปกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (sympathetic nervous system) ทำให้เลือดมาเลี้ยงร่างกายช่วงล่างน้อยลง และเป็นอันตรายต่อต่อมลูกหมากในระยะยาวได้
แนวทางการดูแลต่อมลูกหมาก
- ดื่มชาสมุนไพร เช่น หญ้าหนวดแมวเป็นประจำ จะช่วยดูแลไต และขับปัสสาวะ (แต่ห้ามใช้กรณีโรคหัวใจ ไตวายเรื้อรังเนื่องจากโพแทสเซียมสูง)
- พืชตระกูลแตง เช่นฟักเขียว ดีที่สุดสำหรับต่อมลูกหมาก รับประทานผลรวมทั้งยอดอ่อนช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโต
- มะเขือเทศสุก แครอท หอมแดง เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และธัญพืชทั้งเมล็ด โดยนำมาเป็นส่วนประกอบอาหารให้ได้ทุกวัน และรับประทานผัก เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดอก และกะหล่ำปลี (แนะนำดื่มน้ำมะเขือเทศต้ม)
- รับประทานสมุนไพรที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นหล่อลื่นให้ระบบสืบพันธุ์ เช่น รากสามสิบ วุ้นว่านหางจระเข้ น้ำซุปถั่วเขียว เป็นประจำ
- หมั่นเคลื่อนไหวร่างกายท่อนล่างเป็นประจำ เช่น เดินวันละ 30 นาที หรือทำโยคะในท่าที่มีการเปิดสะโพกจะเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังส่วนล่างของร่างกาย
- ห้ามกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ และระวังท้องผูก การไหลเวียนที่ดีของวาตะ(ธาตุลม) ขึ้นอยู่กับการไหลเวียนที่ไม่ถูกยับยั้ง รวมทั้งการมีกิจกรรมทางเพศเมื่อร่างกายต้องการ! แต่ต้องไม่มากเกินไป มิฉะนั้นความไม่สมดุลของวาตะจะยิ่งเลวร้ายขึ้น!!
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อรักษาสภาพการไหลของสารคัดหลั่ง
- ดูแลธาตุไฟ เพื่อให้ระบบย่อยเป็นปกติ จะทำให้ธาตุไฟของต่อมลูกหมากทำงานได้ดี หลีกเลี่ยงอาหารที่แห้งหรือมันเกินไป ร้อนหรือเย็นเกินไป เผ็ดร้อนเกินไป หรือไม่เผ็ดร้อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงความสุดโต่ง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ เนื่องจากทำให้เกิดความไม่สมดุลในเนื้อเยื่อเลือด
10 ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้หาช่วงพักสั้นๆ หลายๆ ครั้ง และพยายามยืดเส้นยืดสาย หรือออกไปเดิน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนพลังงาน เลือด และสารอาหารไปยังบริเวณต่อมลูกหมาก
11 การนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเป็นบางครั้ง มีศาสตร์การนวดป้องกันต่อมลูกหมากโต
12 นอนหลับลึกอย่างเพียงพอในแต่ละคืน
13 นั่งหรือนอนแช่น้ำอุ่น เพื่อช่วยลดการคั่งของต่อมลูกหมาก
สูตร น้ำมะเขือเทศ รักษาต่อมลูกหมากโต
ในมะเขือเทศ มีสารไลโคปีน (Lycopene) ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งไลโคปีนเป็นสารที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ปกติในร่างกาย ที่อาจกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งในอนาคต และช่วยลดสาร PSA ที่มันจะมีในคนที่ เป็นต่อมลูกหมากโต และมีแนวโน้มเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเขือเทศที่ปรุงสุก จะช่วยให้ร่างกายได้รับไลโคปีนได้มากกว่าการรับประทานมะเขือเทศสด ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโตได้ถึง 35%
การศึกษา จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ ได้ทำการเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคอาหารและไลฟ์สไตล์ ของผู้ชายกว่า 1,800 คน อายุระหว่าง 50-69 ปี ที่ป่วยจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง 12,000 คน จากผลการสำรวจพบว่าผู้ชายที่รับประทานมะเขือเทศ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่า 18% (ที่มาวารสารCancer Epidemiology Biomarkers and Prevention )
สูตรน้ำมะเขือเทศ/วิธีทำ
- มะเขือเทศสด 200 กรัม ล้างสะอาด
- ปั่นให้ละเอียด (มะเขือเทศสด 200 กรัม มีค่าสารไลโคปีนใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น 50 กรัม)
- นำไปต้มประมาณ 20-30 นาที
- ดื่มหลังอาหารเช้าวันละ1ครั้ง (ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน)
- หรือเลือกซื้อน้ำมะเขือเทศสำเร็จรับประทานได้เช่นกัน
ข้อห้ามใช้
ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผู้ที่ต้องควบคุมระดับโพแทสเซียมเนื่องจาก มะเขือเทศมีโพแทสเซียมสูง
อ้างอิง
- บันทึกของแผ่นดิน10 สมุนไพรเพื่อสุขภาพท่านชาย
- https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/275/มะเขือเทศกับไลโคพีน/
ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร