นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากเกษตรกรและชาวบ้าน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน ไม่มีน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และทำการเกษตร เมื่อฝนมาก็ไม่มีพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ จนชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ต้องลงมือก่อสร้างขุดลอกแหล่งน้ำเอง แต่ก็เกิดปัญหาและอุปสรรคในการก่อสร้าง รวมถึงความจำกัดด้านงบประมาณ และวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) จึงได้มอบหมายให้รีบมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และหารือแนวทางการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมชลประทานที่เป็นหน่วยงานราชการภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้กำชับนายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 เป็นที่ปรึกษาการออกแบบแหล่งน้ำชุมชน หรือ ฝายแม้วและการก่อสร้างสถานีสูบน้ำให้กับชาวบ้าน เพื่อให้แหล่งเก็บน้ำใช้ได้อย่างจริงจัง คงทน แข็งแรง ซึ่งจากการสำรวจรอบแหล่งเก็บน้ำ พบว่าฝายที่ชาวบ้านขุดเพื่อเก็บน้ำยังมีโครงสร้างไม่มั่นคง หากฝนตกหนักอาจเกิดดินถล่มได้ง่าย พร้อมทั้งระบบท่อส่งน้ำยังไม่เพียงพอ
“เนื่องจากพื้นที่แหล่งน้ำนี้ตั้งอยู่ในเขตป่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานจึงจะประสานงานกับกรมป่าไม้เพื่อขออนุญาติการใช้พื้นที่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อบริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวบ้านและเกษตรกรให้พื้นที่ให้มีน้ำไว้ใช้ คาดว่าจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ประมาณ 300,000 ถึง 400,000 ลบ.ม. โดยฝายแม้วดังกล่าว นับเป็นการดำเนินงานก่อสร้างตามแนวทางพระราชดำริ ที่ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมแรง ร่วมใจสร้างฝายเก็บน้ำเพื่อใช้สำหรับการเกษตรและการอุปโภค บริโภคในอนาคต” นายนราพัฒน์ กล่าว