SPCG ลุยโซลาร์ฟาร์มใหญ่สุดในญี่ปุ่น ใส่เงินลงทุนรอบ 2 ให้ “Ukujima Mega Solar Project” พร้อมชำระรอบ 3 อีกราวเดือนกันยายนนี้ มั่นใจเริ่มขายไฟได้ปี 2566

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของ “Ukujima Mega Solar Project” โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น ด้วยขนาดกำลังการผลิตรวม 480 เมกะวัตต์ ว่าบริษัทได้ใส่เงินลงทุนรอบสองไปอีก เป็นจำนวนเงิน 1,924,187,000 เยน หรือประมาณ 579,788,330 บาท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เรียบร้อยแล้ว และจะชำระทุนครั้งที่ 3 อีก เป็นจำนวนเงิน 64,828,000 เยน หรือประมาณ 19,533,713 บาท ภายในเดือนกันยายน 2563 (อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 30.1316 บาทต่อ 100 เยน ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2563) ซึ่งครั้งที่ 1ได้ใส่ไปเป็นจำนวนเงิน 2,289,680,925 เยน หรือประมาณ 689,917,497 บาท เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ตามแผนงานบริษัทจะใส่เงินลงทุนทั้งสิ้น 5 รอบ เป็นเงินจำนวน 9,000,000,000 เยน หรือประมาณ 2,703,742,494 บาท ด้วยเงินลงทุนทั้งโครงการราว 178,758,689,000 เยน หรือคิดเป็น 53,862,853,134 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 30.1316 บาทต่อ 100 เยน ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2563) ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ คิดเป็นร้อยละ 17.92

โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 – 2566 ทั้งนี้ “Ukujima Mega Solar Project” เป็นระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ควบคู่ไปกับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบผสมผสานร่วมกับการทำเกษตรกรรม โครงการดังกล่าวจึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง ในขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยเหลือในการพัฒนาฐานเกษตรกรรมของเกาะ Ukujima อีกทั้งยังสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศกว่า 270,000 ตัน/ปี

Ukujima Mega Solar Project” ตั้งอยู่ ณ เกาะ Ukujima เมืองซาเซโบ จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้ร่วมลงทุนได้แก่ Kyocera Corporation, Kyudenko Corporation, Tokyo Century Corporation, Furukawa Electric Company Limited, Tsuboi Corporation