จังหวัดนนทบุรี และสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จับมือ เอสซีจี พร้อมรับมือมาตรการผ่อนปรน ด้วย “ONLINE CLINIC”

นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และนายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล” ระหว่างจังหวัดนนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเอสซีจี ด้วยการนำโมบายแอปพลิเคชัน ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับคัดกรองและดูแลรักษาคนไข้โควิด-19 ผ่านทางออนไลน์ มาใช้กับเครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้เข้ารับการตรวจและบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษาโรคโดยไม่จำเป็น อีกทั้งช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น รวมถึงช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการดูแลและติดตามอาการของคนไข้จนรักษาหายขาด

หลังจากที่ “เอสซีจี” ได้พัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อใช้ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 สำหรับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุด “เอสซีจี” ได้สานต่อนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการเตรียมพร้อมรับมือมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อมา ด้วยโมบายแอปพลิเคชัน “ONLINE CLINIC” (ออนไลน์ คลินิก) ที่สามารถตอบโจทย์ในการคัดกรอง การให้บริการดูแลรักษา และการติดตามคนไข้ได้อย่างครบวงจร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการคัดกรองและดูแลอย่างรวด ทันเวลา พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำของเชื้อโควิด-19

นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ของโควิด-19 ในปัจจุบันว่า “ส่วนใหญ่ผู้ที่มาตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ต้องมาเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่จำเป็น ทางจังหวัดนนทบุรีและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ จึงมีโครงการริเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับประชาชนที่เข้ารับการตรวจ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน”

นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ และการสร้างให้เกิด New Normal ว่า “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้ารับบริการทางการแพทย์และวิธีการในการดูแลรับมือคนไข้ของโรงพยาบาล ด้วยการนำออนไลน์แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็ว ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดตามดูแลคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้สามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย”

ทางด้าน นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวถึงแอปพลิเคชัน “ONLINE CLINIC” ซึ่งทางเอสซีจี โดยหน่วยงาน Living Solution (ลีฟวิ่ง โซลูชัน) ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์พัฒนาขึ้นว่า “แอปฯ นี้ ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแล้วเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่สงสัยว่าตนติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ โดยสามารถทำแบบประเมินตนเอง รวมถึงพูดคุยกับแพทย์หรือพยาบาลเพื่อประเมินความเสี่ยงผ่านวิดีโอคอล และจองคิวเพื่อเข้ารับการตรวจ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงก็จะมีการเชื่อมต่อการรักษาตัวกับโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เลือกรับบริการได้ทันที โดยจะเริ่มต้นสำหรับโรงพยาบาลในสังกัดของสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลปากเกร็ด โรงพยาบาลบางกรวย โรงพยาบาลบางบัวทอง โรงพยาบาลบางบัวทอง 2 โรงพยาบาลบางใหญ่ โรงพยาบาลไทรน้อย และศูนย์บริการ​การแพทย์นนทบุรี”

สำหรับโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่สนใจนำแอปพลิเคชัน “ONLINE CLINIC” ไปใช้ในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 02-586-2888