รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)
ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563
1. สถานการณ์ทั่วโลกข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 22 เมษายน 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยจำนวน 2,554,568 ราย เสียชีวิต 177,402 ราย ประเทศที่มียอดผู้ป่วยมาก 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วย 817,952 ราย เสียชีวิต 45,279 ราย สเปนพบผู้ป่วย 204,178 ราย เสียชีวิต 21,282 ราย และอิตาลีพบผู้ป่วย 183,957 ราย เสียชีวิต 24,648 ราย
2. สถานการณ์ในประเทศไทย (21 เมษายน 2563 เวลา 16.00 น.) มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 244 ราย รวมถึงวันนี้กลับบ้านไปแล้ว 2,352 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ป่วยรายใหม่รายงานวันนี้
15 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลลดลงเหลือเพียง 425 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 ของผู้ป่วยทั้งหมด
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย นับเป็นลำดับที่ 2,812 – 2,826 จำแนกเป็นกลุ่มได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 เป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 10 ราย (พบที่จังหวัดชุมพร, สงขลา, พระนครศรีอยุธยา, กรุงเทพฯ)
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 5 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
2.1 คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย
2.2 เดินทางไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัด, สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย
2.2 อาชีพเสี่ยง 3 ราย (พนักงานโรงแรม, พนักงานขาย, พนักงานขนส่งสินค้า)
วันนี้ ไม่มีรายงานผู้ป่วยที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว รวมถึงไม่มีรายงานผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantines
ได้รับรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 58 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และภาวะอ้วน มีประวัติเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัวที่เป็นผู้ป่วยยืนยัน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ด้วยอาการไข้ ไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อ
โควิด 19 ขณะรักษามีอาการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลว ต่อมาอาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิต (เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 49)
โดยสรุปภาพรวมวันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 2,352 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 425 ราย เสียชีวิตรวม 49 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,826 ราย
สำหรับจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโรนา 2019 รายใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา (ข้อมูลวันที่ 22 เมษายน 2563) จำนวน 36 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, แพร่, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, จันทบุรี, นครนายก, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ราชบุรี, ลพบุรี, ลำพูน, ศรีสะเกษ, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุโขทัย, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, ระยอง, ตาก, ประจวบคีรีขันธ์, สกลนคร, สุรินทร์, สระแก้ว, อุบลราชธานี, สุพรรณบุรี และนครราชสีมา
จากรายงานการสอบสวนโรคผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีประวัติเดินทางไปในสถานที่แออัด หรือที่ชุมนุมชน พบว่า ในเขตกรุงเทพมหานคร สถานที่ที่พบผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ สถานบันเทิง สนามมวย บ่อนการพนัน โรงภาพยนตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟิตเนส วัด ร้านเสริมสวย มหาวิทยาลัย ร้านอาหาร ย่านการท่องเที่ยว ตลาด ห้างสรรพสินค้า การใช้ขนส่งสาธารณะ สถานที่ทำงาน และสถานพยาบาล ส่วนในต่างจังหวัดพบผู้ป่วยติดเชื้อจาก สถานบันเทิง สนามมวย บ่อนการพนัน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ท่องเที่ยว สถานที่ทำงาน สถานพยาบาล ตลาด วัด และมัสยิด จะเห็นได้ว่าสถานที่ที่มีการติดเชื้อจะมีประชาชนรวมตัวอยู่จำนวนมาก ดังนั้น มาตรการที่แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน คนแออัด จึงมีความสำคัญเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19
ถึงแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยจะดีขึ้นแล้ว แต่ขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัดต่อไปอีกสักระยะ งดการเดินทางที่ไม่จำเป็น งดการรวมกลุ่ม งดการสังสรรค์ หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด ให้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญให้เว้นระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร