เรือ LNG กฟผ. ลำที่ 2 เทียบท่าแล้ว พร้อมส่งก๊าซฯ ผลิตไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. คาดผลนำเข้า LNG 2 ลำเรือช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงร่วม 500 ล้านบาท มากกว่าที่คาดการณ์

กฟผ. นำเข้า LNG แบบ Spot ลำเรือที่ 2 ปริมาณ 65,000 ตัน เพื่อทดสอบระบบการแข่งขันเสรีในกิจการก๊าซธรรมชาติ พร้อมนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. คาดทั้ง 2 ลำเรือช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง Ft 0.42 สตางค์ต่อหน่วย หรือ คิดเป็นมูลค่าร่วม 500 ล้านบาท มากกว่าที่คาดการณ์

นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 กฟผ. นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas : LNG) แบบตลาดจร (Spot) จำนวน 65,000 ตัน ลำเรือที่ 2 จาก บริษัท PETRONAS LNG โดยเรือ Seri Angkasa ได้เดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTT LNG) อ.มาบตาพุด จ.ระยอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง LNG ล็อตนี้ กฟผ. จะนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าผ่านสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติของ PTT LNG และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ปตท. (PTT TSO) ส่งไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5, โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และ โรงไฟฟ้า พระนครใต้ ชุดที่ 4 โดยมีระยะเวลาการใช้ LNG ประมาณ 13 วัน คือระหว่างวันที่ 22 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2563 เพื่อผลิตไฟฟ้าเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศ และเมื่อใช้ก๊าซ LNG ล็อตนี้แล้วเสร็จ กฟผ. จะรายงานผลการทดสอบ “การเปิดให้บุคคลที่สามเข้าใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานี LNG หรือ Third Party Access (TPA)” ไปยัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต่อไป โดยคาดว่าการจัดหา LNG ของ กฟผ. ทั้ง 2 ลำเรือ จะส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิง (Ft) ลดลงจากเดิมที่เคยประมาณการไว้เมื่อปลายปี 2562 ที่ 0.21 สตางค์/หน่วย เป็นลดลง 0.42 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท

สำหรับแผนการจัดหา LNG กฟผ. ระยะเวลา 3 ปี (ตั้งแต่ปี 2563 – 2565) เป็นการนำเข้า LNG แบบ Spot ตามปริมาณความต้องการก๊าซธรรมชาติของ กฟผ. ในส่วนที่เกินจากปริมาณตามข้อผูกพันในสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ระหว่าง ปตท. และ กฟผ. ซึ่งการนำเข้า LNG ดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐที่เร่งให้นำเข้า LNG ในช่วงที่สถานการณ์ LNG ในตลาดโลกมีปริมาณมากกว่าความต้องการ (Over Supply) และมีราคาถูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า และเกิดการแข่งขันเสรีในธุรกิจนำเข้า LNG ในอนาคต ทั้งนี้ แผนนำเข้าดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กฟผ. แล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นายธวัชชัย จักรไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 การดำเนินการทดสอบนำเข้า LNG ดังกล่าว กฟผ. และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย PTT LNG, PTT TSO, PETRONAS LNG และบริษัท Intertek Testing Services (Thailand) ซึ่งเป็น Surveyor ของ กฟผ. จะต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยยึดถือข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ มาตรฐานของสถานี PTT LNG ซึ่งต้องปฏิบัติในทุกขั้นตอนการนำเข้า ตั้งแต่การนำส่ง LNG จาก บริษัท PETRONAS LNG ท่าเรือ Bintulu ประเทศมาเลเซีย เข้าสู่เรือ จนถึงการตรวจรับ LNG ของ กฟผ. โดยการประสานงาน ประชุม และตรวจสอบเอกสาร ใช้การประชุมทางไกลระบบวีดีโอ (VDO Conference) และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เพื่อลดการพบปะของบุคคลจำนวนมากตามนโยบายของรัฐบาล