“พาณิชย์” ลุยจับคนขายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์แพงเกินจริง ยอดต่างจังหวัดสูงขึ้นต่อเนื่อง…ทำยอดรวมเพิ่ม 361 ราย

นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 17 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์เพิ่มสูงถึง 19 ราย ดังนี้

กรุงเทพฯ 3 ราย พบเป็นร้านค้าทั่วไปจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 2 ราย โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิด ตามมาตรา 28 นอกจากนี้ยังเข้าตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบอีก 1 ราย พบการกระทำความผิดเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุน และไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือรายวัน ต่อ กกร. จึงแจ้งข้อหากระทำความผิด ตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26 

ต่างจังหวัด 16 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ดังนี้

 กระทำความผิดตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย เป็นร้านค้าทั่วไป จำนวน 8 ราย ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร 6 ราย และ จังหวัดเพชรบุรี 2 ราย

  • กระทำความผิดตามมาตรา 25 (1) มาตรา 29 และมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินสมควร และ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) 1 ราย ในจังหวัดนครสวรรค์ พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบขายปลีก ในราคาชิ้นละ 18 จำนวน 58 ชิ้น นอกจากนี้ยังพบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุแพคละ 5 ชิ้น ในราคา 80 บาท /แพค (เฉลี่ยชิ้นละ 16 บาท) รวม 75 ชิ้น
  • กระทำความผิดตามมาตรา 25 และมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร ในจังหวัดขอนแก่น 3 ราย เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์(Surgical Mask) บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 450 – 620 บาท(เฉลี่ยชิ้นละ 00 – 12.40 บาท)
  • กระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร โดยการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าทั่วไปจำหน่ายหน้ากากอนามัย 3 ราย ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย แบบขายปลีกในราคาชิ้น 15 – 20 บาท  จังหวัดนครพนม 1 ราย พบจำหน่ายหน้าอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่อง 730 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ60 บาท) และ จังหวัดอุตรดิตถ์ 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคา 990 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 19.80 บาท)

ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มียอดรวมสูงขึ้นถึง  361 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 163 ราย และต่างจังหวัด 198 ราย

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง  มาตรา26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทและมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าติดตามตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ต่อไป โดยจะมีการตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมเช่น ไข่ไก่ หากพบขายเกินราคาควบคุม และแพงเกินจริง มีการกักตุนสินค้า หรือเอาเปรียบประชาชน จะดำเนินคดีตามกฏหมายขั้นเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด – 19  “หากพบเห็นการกระความผิด สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ”นางลลิดากล่าว

——————————-

18 เมษายน2563