วันที่ 17 เมษายน 2563 ณ ห้องประชุมริบบิ้นขาว ชั้น 3 อาคารกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เปิดเผยภายหลังจากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของครอบครัวไทยจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19
นางสาวอุษณีกล่าวว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะของครอบครัวไทย ในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 จากศาสตราจารย์นายแพทย์รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว (กสค.) ที่กล่าวถึงรายงานของ European Respiratory โดยมีผลการศึกษาว่า “ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีความเสี่ยงในเยื่อบุผิวหลอดลมในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีความไวต่อการติดเชื้อ ยิ่งร่างกายมีมากจะส่งผลให้ร่างกายรับเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ง่าย”
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์รณชัย ยังได้เตือนถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้าว่า “ไอของบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแพร่กระจาย COVID-19 ได้ เมื่อผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าพ่นไอออกมา จะเทียบได้กับการถ่มน้ำลายใส่หน้ากัน เพราะตัวไอของบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วยละอองจากระบบทางเดินหายใจ น้ำลาย เสมหะ และแบคทีเรีย เมื่อถูกพ่นออกมาจะลอยเป็นระยะทางไกลและแขวนอยู่ในอากาศในระดับความสูงเท่าศีรษะ ดังนั้นหากใครเป็น COVID-19 เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้า พวกเขาจะสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้คนจำนวนมากได้” (www.dailynews.co.th 2 เม.ย. 63)
นางสาวอุษณีกล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลดังกล่าว สค. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว มีความห่วงใยว่าในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 และรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ที่บ้านตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นั้น สค. จึงขอความร่วมมือทุกครอบครัวที่มีสมาชิกสูบบุหรี่ ขอให้มีมาตรการหรือเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับสถานที่ที่จะสูบบุหรี่ โดยอาจจะใช้พื้นที่ที่มีระยะห่างจากสมาชิกอื่น ๆ ของครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก หรือผู้สูงอายุ หากจำเป็นต้องสูบบุหรี่ ขอให้สูบบุหรี่ภายนอกบ้าน แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีผลกระทบกับเพื่อนบ้าน เพราะหากผู้ที่สูบบุหรี่เป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 และสูบบุหรี่ในบ้าน ก็จะส่งผลให้สมาชิกในบ้านมีความเสี่ยงสูงที่จะติด COVID-19 ไปด้วย
ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้เพื่อลดผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวอาจใช้เป็นเหตุผลในการสร้างแรงบันดาลใจในการที่จะลด หรือเลิกสูบบุหรี่อย่างจริงจัง เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง และของคนในครอบครัวด้วย
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้โอกาสกิจกรรมต่างๆ ทำร่วมกัน เช่น เก็บกวาดบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำงานอดิเรก ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ครอบครัวจะได้อยู่บ้านทำกิจกรรมสร้างสัมพันธภาพที่ดีด้วยกัน ทั้งนี้ ควรเว้นระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร สิ่งสำคัญขอให้สมาชิกในครอบครัว ได้พูดคุย สื่อสารเชิงบวกด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน และให้กำลังใจกัน เพื่อลดความวิตกกังวล หรือความเครียดเกี่ยวกับปัญหาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19
ทั้งนี้ หากต้องการขอรับคำปรึกษา หรือคำแนะนำการสุขภาพของตนเองและครอบครัว เพื่อป้องกันของไวรัส COVID-19 สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ โทร. 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1323 สายด่วนสุขภาพจิต บริการให้คำปรึกษาฟรี 24 ชั่วโมง โทร. 1300 สายด่วน พม. (ตลอด 24 ชั่วโมง) โดยขอความร่วมมือให้ทุกคน “หยุดเชื้อเพื่อชาติ หยุดประมาทเพื่อครอบครัว”