กรม สบส. เร่งเครื่องต่อยอดต้นแบบเครื่องมือแพทย์สู้โรคโควิด-19 ยกระดับสู่อุตสาหกรรมการแพทย์

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) จับมือหน่วยงานด้านนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือแพทย์รองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อต่อยอดต้นแบบเครื่องแพทย์ให้กับสถานพยาบาลภาครัฐในการควบคุมป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค พร้อมยกระดับเทคโนโลยีทางการแพทย์ของไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เกิดความยอมรับในระดับสากล

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์อาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งเครื่องมือแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยกรม สบส.ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและ สถาบันการศึกษา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือแพทย์รองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ประกอบการด้านเครื่องมือแพทย์ นักวิจัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถนำความรู้ไปต่อยอดต้นแบบนวัตกรรม และพัฒนาเครื่องมือแพทย์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรองรับผู้ป่วยและลดโอกาสการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ นอกจากนี้สามารถขยายผลสู่การยกระดับเทคโนโลยีทางการแพทย์ของไทยและผลิตภัณฑ์ให้เป็นอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานในระดับสากล สามารถแข่งขันกับต่างประเทศและเกิดความยอมรับในสายตานานาชาติได้

นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการระดมสมองและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในหัวข้อ “นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์รองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อ โคโรนา 2019 การรับรองมาตรฐาน และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ในสถานพยาบาล” จากหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษา และหัวข้อ “มุมมอง ความพร้อมและแนวทางในการพัฒนาเครื่องมือแพทย์รองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อโคโรนา 2019 เพื่อการผลิตในเชิงอุตสาหกรรม” โดยผู้ประกอบการด้านเครื่องมือแพทย์ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังเป็นการสอดรับนโยบายพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ(Medical Hub) ด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรอีกด้วย