พิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า ตามโครงการสภากาชาดไทยร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า

สภากาชาดไทย จัดพิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าตามโครงการสภากาชาดไทย “ร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า” โดยจะมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งมอบให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดของโรค และมอบให้กับประชาชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด

พิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าครั้งนี้มี นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี โดยมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข 2 ล้านชิ้น ซึ่งมี นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ในฐานะผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นผู้รับมอบ และมอบให้กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จำนวน 1 แสนชิ้น ซึ่งมีนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้รับมอบ

นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างกว้างขวางทั่วโลกในปัจจุบัน แต่หากชะลอการแพร่ระบาดในประเทศไทยให้ช้าลงได้ จะทำให้อัตราการตายลดลงได้อย่างมาก หนึ่งในมาตรการที่ได้ผลในการชะลอการแพร่ระบาด คือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการได้รับเชื้อและเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาขอความร่วมมือให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก แทนการใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียว (Surgical Mask) ซึ่งสำรองไว้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสำหรับใช้ในโรงพยาบาลเท่านั้น

สภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ และสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ตระหนักถึงความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย จึงร่วมกัน จัดทำ “โครงการสภากาชาดไทยร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า” ขึ้น เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 10 ล้านชิ้น โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการส่งมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดของโรค จำนวน 1 ล้านคน รวม 2 ล้านชิ้น และมอบให้พนักงานส่งไปรษณีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 50,000 คน รวม 100,000 ชิ้น ภายในเดือนเมษายน 2563  จากนั้นจึงมอบให้กับประชาชนทั่วทั้ง 77 จังหวัด นอกจากนี้สภากาชาดไทยยังได้ดำเนินการส่งชุดยังชีพให้กับผู้ถูกกักกันโรคที่ขาดแคลนอาหาร เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอด 14 วัน ของการกักกันโรคและสามารถควบคุมโรคได้ผล

นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ในฐานะประธานกรรมการโครงการสภากาชาดไทยร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวฯ เป็นความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการช่วยกันส่งเสริมให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สภากาชาดไทยจัดทำขึ้น เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะนำ สามารถป้องกันการรับและการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19 ได้

นายแพทย์พิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “สาเหตุที่มอบให้กับอสม.ก่อน เพราะอสม.อยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นด่านหน้าที่ต้องเข้าไปดูแลใกล้ชิดกับประชาชน โดยอสม. 1 คน รับผิดชอบ 15 ครัวเรือน รวมถึงต้องเฝ้าระวังและติดตามครอบครัวที่ตนเองรับผิดชอบ มีบทบาทสำคัญมากในการควบคุมการระบาดของโรค จึงสมควรได้รับหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกันตนในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะดำเนินการจัดส่งให้ถึงบ้าน

ของ อสม.ซึ่งคาดว่าจะแจกจ่ายให้ครบได้ภายในเดือนเมษายน 2563 และหลังจากนั้นเหล่ากาชาดจังหวัดก็จะมอบให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั้ง 77 จังหวัด ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส เด็ก รวมถึงประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่รับหน้าที่ดำเนินการโดยให้บุรุษไปรษณีย์ที่มีทั่วประเทศกว่า 40,000 คน เป็นผู้จัดส่งหน้ากากอนามัยของสภากาชาดไทยให้กับ อสม.”

สำหรับการคัดกรองผู้ที่จะได้รับหน้ากากอนามัยแบบผ้าจากเหล่ากาชาดจังหวัดทั่วประเทศนั้น นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย กล่าวว่า ณ ขณะนี้ได้พิจารณาจำนวนประชาชนที่จะได้รับหน้ากากอนามัยแบบผ้าของสภากาชาดไทย โดยเรียงลำดับตามความเร่งด่วนซึ่งจะมอบให้จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับจำนวนหน้ากากที่จะได้รับนั้น จะได้รับตามสัดส่วนของประชากรในจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในต่างจังหวัดไปได้บ้าง โดยผ้าที่สภากาชาดไทยนำมาให้อาสาสมัครตัดเย็บเป็นหน้ากาก ผลิตจากผ้าฝ้ายมัสลินที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดีที่สุด มีเส้นใยที่สามารถกันอนุภาคได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น และสามารถนำมาใช้งานได้หลายครั้ง ซึ่งสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ได้ประสานงานกับเหล่ากาชาดจังหวัดในการดำเนินการตัดเย็บและแจกจ่ายให้กับ อสม. และประชาชนที่ผ่านการคัดกรองมาแล้วว่าสมควรได้รับหน้ากากอนามัยก่อน”

โดยก่อนหน้านี้ ในระหว่างวันที่ 2-27 มีนาคม 2563 สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ได้ขอความร่วมมือให้เหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาดอำเภอทั่วประเทศ ดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยและแจกจ่ายแก่ประชาชนไปแล้ว จำนวน 774,782 ชิ้น เพื่อเป็นการบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนในภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยด้วย

นายแพทย์พิชิต ยังกล่าวอีกว่า นอกจากหน้ากากอนามัยแบบผ้าแล้ว เหล่ากาชาดจังหวัดได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย จัด “ชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด-19” เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกกักกันโรคและยากจนให้สามารถดำรงชีพได้ในขณะที่ต้องกักตัวอยู่ในที่พัก โดยภายในชุดธารน้ำใจฯ ประกอบด้วย ข้าวสาร 5 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 1 กล่อง ปลากระป๋อง จำนวน 4 กระป๋อง ปลาราดพริกกระป๋อง จำนวน 4 กระป๋อง ไข่พะโล้ใส่ไก่ จำนวน 2 กระป๋อง น้ำพริกปลาทูน่า จำนวน 2 กระป๋อง และถุงขยะสีดำขนาดเล็ก จำนวน 2 ชุด โดยได้มีการประสานกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ให้ตัวแทน อสม.ที่ได้รับมอบหมายในแต่ละหมู่บ้าน สามารถดำเนินการร้องขอ “ชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด-19” ผ่านแอปพลิเคชั่น “พ้นภัย” เพื่อขออาหารช่วยเหลือผู้ถูกกักกันโรคที่มีฐานะยากจน ขณะนี้ได้ส่งชุดธารน้ำใจฯ ดังกล่าวไปให้ผู้ถูกกักกันโรคที่ขาดแคลนแล้วจำนวน 37 จังหวัด รวม 48,763 ชุด มูลค่า 32,183,580 บาท และแกนนำ อสม. เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน พ้นภัย เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ รวม 510 ครั้ง แจ้งโดย อสม. 183 คนในพื้นที่ 23 จังหวัด

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ในฐานะผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีบุคลากรอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่คอยดูแลและติดตามกลุ่มผู้ถูกกักกันโรคดังกล่าวอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งในการนี้มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทย ในการช่วยสนับสนุนให้ อสม.สำรวจผู้ที่ถูกกักกันโรคในที่พักที่มีฐานะยากจน และมีความต้องการถุงยังชีพ โดยให้อสม.แจ้งผ่านระบบแอปพลิเคชัน พ้นภัย แล้วส่งข้อมูลความต้องการมายังเหล่ากาชาดจังหวัดหรือสภากาชาดไทย เพื่อสนับสนุนถุงยังชีพไปให้ ทั้งนี้ได้แจ้งให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพซึ่งเป็นผู้ดูแล  อสม. ทราบและดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว ขณะเดียวกันหน้ากาอนามัยแบบผ้าที่ได้รับในวันนี้จะถูกจัดสรรให้กับ อสม. ที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนประมาณ 1 ล้านคน คนละ 2 ชิ้น รวม 2 ล้านชิ้น เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจาก อสม.มีหน้าที่เยี่ยมบ้านและเฝ้าระวังโรคเป็นด่านแรก

ด้านนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนจัดส่งผ้าพิมพ์ลายเพื่อนำไปตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้กับ อสม. ทั่วประเทศและได้สนับสนุนการจัดพิมพ์เอกสารคำแนะนำวิธีใช้และการซักหน้ากาอนามัยแบบผ้าที่ถูกต้อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากนี้ในวันนี้ยังได้รับมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าจำนวน 1 แสนชิ้น เพื่อนำไปมอบให้กับพนักงานส่งไปรษณีย์ จำนวน 5 หมื่นคน ทั่วประเทศ คนละ 2 ชิ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ทั้งนี้ สภากาชาดไทย ขอเชิญบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนการจัดทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 โดยสามารถขอรับใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ที่ donation@redcross.or.th พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ในการจัดส่งใบเสร็จ และเบอร์โทรศัพท์ แนบหลักฐานการโอนเงิน พร้อมระบุ “เพื่อช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย”


ขอความอนุเคราะห์ในการเผยแพร่ข่าวนี้ด้วย จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

งานประชาสัมพันธ์  สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย

โทร. ๐-๒๒๕๑-๗๘๕๓ ต่อ ๒๑๐๓ โทรสาร ๐-๒๒๕๒-๗๙๗๖

E-mail : pr_trc@hotmail.com  Website : www.rtrc.in.th