กระทรวงสาธารณสุขไทย ร่วมประชุมทางไกลกับรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนและอาเซียนบวก 3 แลกเปลี่ยนข้อมูล และหารือมาตรการสร้างความร่วมมือและการประสานงานในการตอบโต้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในอาเซียน
นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนทางไกลสมัยพิเศษ ว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือในการตอบโต้โรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประกอบด้วย บรูไน ดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งผู้แทนองค์การอนามัยโลกภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ร่วมแลกเปลี่ยนมาตรการของไทยที่ให้ความสำคัญกับการค้นหาผู้ติดเชื้อตั้งแต่ระยะแรก และการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง ได้เสนอให้ยกระดับความร่วมมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมการระบาดของโรคในภูมิภาค และสร้างความมั่นใจว่ามาตรการจำกัดการเดินทาง จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการขนส่งยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการปกป้องชีวิตผู้ป่วย รวมทั้งเมื่อมียาและวัคซีนแล้ว ขอให้จัดสรรให้ประเทศสมาชิกอย่างเท่าเทียม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาเซียนเอาชนะโรคนี้ได้ คือความพร้อมเพรียงในการตอบโต้ COVID-19 ของประเทศสมาชิก
นอกจากนี้ รัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนได้รับรองแถลงการณ์ร่วมเพื่อร่วมมือกันจัดการกับ COVID-19 ในภูมิภาค โดยจะยกระดับการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านกลไกอาเซียน การสื่อสารความเสี่ยงร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของผู้ที่ติดเชื้อ การประสานความร่วมมือกับหุ้นส่วนการพัฒนาอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคและระดับโลกในการสร้างศักยภาพในการตอบโต้ COVID-19
ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย ได้มีการหารือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศบวกสาม ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดยไทยได้เสนอให้ที่ประชุมร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้โรค COVID-19 แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่างรัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศอาเซียนบวกสาม เพื่อการประสานงานอย่างรวดเร็ว และที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบต่อแถลงการณ์ร่วมในการร่วมมือกันโต้ตอบต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 เน้นการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Whole society approach) รวมทั้งภาคเอกชนในการตอบโต้ COVID-19 และการเยียวยาผลกระทบในทุกมิติ