นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจาก เหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำงานหรือนายจ้างไม่ให้ทำงานกักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 และกรณีหน่วยงานภาครัฐมีคำสั่งให้นายจ้างหยุดประกอบกิจการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ทั้ง 2 กรณี สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวันให้รับตลอดระยะเวลาที่หยุดงาน ทั้งนี้ให้รับไม่เกิน 90 วัน โดยสำนักงานฯ เปิดช่องทางให้บริการขอรับสิทธิประโยชน์ว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าวเป็นการเฉพาะ โดยผู้ประกันตนจะต้องยื่นขอรับสิทธิและนายจ้างมีหน้าที่รับรองการหยุดงานของลูกจ้างอันเนื่องจากเหตุสุดวิสัยผ่าน e-form บนหน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th ผลปรากฏมีผู้ประกันตน ยื่นขอรับสิทธิเป็นจำนวนมากแต่ยังขาดนายจ้างรับรองการหยุดงานดังกล่าว
สื่อมวลชนได้รับการเปิดเผยว่าปัจจุบันมีผู้ประกันตนยื่นคำขอผ่านทาง e- form จำนวนกว่า 300,000 ราย และมีนายจ้างยื่นการรับรองผ่านทาง e-form จำนวนเพียงกว่า 30,000 ราย เมื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อจะสามารถทำการจ่ายเงินได้ทันทีเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับ แต่พบว่านายจ้างส่วนใหญ่ ยังไม่ยื่นการรับรองการหยุดงานของลูกจ้างอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ดังนั้นขอให้นายจ้างในกลุ่มดังกล่าว เร่งยื่นรับรองการหยุดงานของลูกจ้างอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยผ่านช่องทาง e-form บนหน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th โดยเร็วเพื่อประโยชน์แก่ตัวของลูกจ้างในสถานประกอบการนั้นเอง
ทั้งนี้ ในการยื่นรับรองการหยุดงานของลูกจ้างอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย นายจ้างเพียงระบุ วันที่หยุดงาน และวันที่ครบกำหนด โดยยื่นแบบทาง e-Form บนหน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th สำนักงานประกันสังคมจะตอบยืนยันการรับข้อมูลของนายจ้างผ่านทาง e-mail ที่นายจ้างได้แจ้งไว้ ขณะนี้มีผู้ประกันตนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากจึงขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนทำหน้าที่อย่างครบถ้วน ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมก็ได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้สิทธิประโยชน์ถึงมือผู้ประกันตนโดยเร็ว