ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงอยู่ในสภาวะวิกฤติ กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดแล้งนี้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังและคุมเข้มการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมไปกับการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง อาทิ ที่จังหวัดนราธิวาส โครงการชลประทานนราธิวาส ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำคลองระบายน้ำ-พรุบาเจาะสายที่ 2 และงานก่อสร้างคลองระบายน้ำพรุบาเจาะสายใหญ่ ในพื้นที่โครงการพรุบาเจาะ-ไม้แก่นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเว้นระยะห่างในการทำงาน 1-2 เมตร สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และให้มีการทำความสะอาดเครื่องจักรทุกครั้งก่อนและหลังการปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการกระจายขอเชื้อไวรัสดังกล่าว
ด้านจังหวัดสุพรรณบุรี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว สนับสนุนน้ำช่วยการผลิตประปา ให้กับการประปาส่วนภูมิภาคด่านช้าง การประปาเทศบาลตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ การประปาหมู่บ้าน หมู่ 1 และ หมู่ 2 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเดิมบางนางบวช และช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม 2 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ส่วนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการชลประทานฉะเชิงเทรา นำรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน นำน้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางคล้า ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลก้อนแก้ว อำเภอคลองเขื่อน สำหรับใช้อุปโภคบริโภค โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน (3 เม.ย. 63) รวมปริมาณน้ำกว่า 1,128,000 ลิตร
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักร เครื่องมือ สำหรับให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือ โทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน
**************************
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
5 เมษายน 2563