ปปง. กำหนดมาตรการเร่งด่วนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 เน้น! เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่บ้านลดความเสี่ยง

วันที่ 29 มีนาคม 2563 พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส  โคโรนา 2019 หรือ COVID-19  ที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อฯ ดังกล่าว โดยกำหนดให้สถานที่ทำงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ลดความแออัด ส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ต และทำแผนการเหลื่อมเวลาการทำงานภายในหน่วยงาน รวมทั้ง ให้พิจารณาดำเนินการปรับลดเวลา และวันทำงานของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงพนักงานในองค์กรหรือองค์การมหาชน หรือ        หน่วยงานอื่นของรัฐ เพื่อให้การดำเนินแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเซื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) นั้น

สำนักงาน ปปง.  ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ดังกล่าว เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น คล่องตัว โดยคำนึงถึงความปลอดภัย  ในการปฏิบัติงานและการให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญ โดยได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นกำกับดูแลให้ข้าราชการ ในสังกัดปฏิบัติหน้าที่และเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อฯดังกล่าวโดยเคร่งครัด ดังนี้

  1. กรณีการปฏิบัติงานนอกสำนักงาน ปปง. ได้มีการกำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่ เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป ปฏิบัติราชการ ณ ที่พัก เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ภารกิจงาน  ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานนอกสถานที่ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งนำระบบเทคโนโลยีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานด้วย เช่น การประชุมทางไกลผ่านระบบ Web Conference เป็นต้น
  2. กรณีการปฏิบัติงานที่สำนักงาน ปปง กำหนด ให้มีการเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดความแออัด ลดความเสี่ยงและโอกาสในการติดเชื้อฯ

ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ยังคงเปิดทำการตามปกติในวันและเวลาราชการเพื่อปฏิบัติงานตามภารกิจและให้บริการประชาชน เช่น การยื่นรื่องร้องเรียน, การยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในรายคดีต่างๆ การขายทอดตลาดทรัพย์สิน เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานฯ ตระหนักถึงอันตรายและความเสียหายอย่างร้ายแรงจากโรคติดเชื้อไวรัส COVID19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มาติดต่อ ณ สำนักงาน ปปง. เป็นสำคัญ จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) เพื่อคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาภายในอาคารสำนักงาน ปปง. โดยขอความร่วมมือประชาชนที่มาติดต่อราชการ ปฏิบัติ ดังนี้

  1. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายโดยเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด และใช้แอลกอฮอล์ล้างมือ ก่อนเข้ามาภายในอาคารสำนักงาน ปปง. ณ จุดคัดกรอง บริเวณชั้น 1
  2. สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่มาติดต่อราชการ
  3. ติดบัตรประจำตัวที่ได้รับตรงจุดคัดกรอง ตลอดเวลาที่มาติดต่อราชการ

นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังมีช่องทางในการติดต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการติดตามข่าวสารของสำนักงาน ปปง/สอบถามข้อมูลร้องเรียน/แจ้งเบาะแส/ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย/ดาวน์โหลดเอกสารคู่มือ แบบฟอร์มต่างๆ ดังนี้

  1. สายด่วน ปปง. 1710 (ในวันและเวลาราชการ)
  2. ส่งไปรษณีย์มาที่ : สำนักงาน ปปง. เลขที่ 422 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  3. เว็บไซต์สำนักงาน ปปง. : www.amlo.go.th
  4. E-mail : mail@amlo.go.th
  5. Facebook : สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน – ปปง.
  6. Application Line ID : AMLO1710

พลตำรวจตรี ปรีชาฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.  กล่าวย้ำว่า สำนักงาน ปปง. มุ่งการดำเนินงานตามภารกิจให้มีประสิทธิภาพและให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนและบุคลากรของสำนักงานฯ     เป็นสำคัญ ดังนั้น ขอความร่มมือประชาชนที่มาติดต่อสำนักงาน ปปง โปรดปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด, มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID19 ของสำนักงาน ปปง. และมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  อย่างเคร่งครัด และโปรดติดตามข่าวสารของสำนักงาน ปปง, ทางเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. และ Facebook สำนักงาน ปปง. อย่างต่อเนื่อง หากมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 1710

……………………………………………………..