นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี รู้สึกห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “ช่วยกันแคร์ดูแลกัน” ให้ประเทศไทยพ้นภัยครั้งนี้ ด้วยการมอบนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 ให้โรงพยาบาล 7 แห่ง เพื่อตอบโจทย์การยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ใกล้ชิด ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทของ มูลนิธิเอสซีจี โดยประกอบด้วย
1.) ห้องตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Screening & Swab Unit) ซึ่งมีระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม จึงช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจ โดยใช้เวลาในการติดตั้งที่หน้างานเพียง 3 วัน ด้วยนวัตกรรมของ SCG HEIM และ Living Solution ของเอสซีจี จำนวน 12 ยูนิต รวมมูลค่า 27 ล้านบาท
2.) ชุดอุปกรณ์ติดตามสุขภาพทางไกล (Tele-Monitoring) ที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Internet of things (IoT) โดย Living Solution ของเอสซีจี ช่วยติดตามข้อมูลสุขภาพผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเก็บตัว จึงช่วยลดการสัมผัสของบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วยได้ จำนวน 70 ชุด รวมมูลค่า 2 ล้านบาท
3.) ห้องน้ำสำเร็จรูป (Modular Bathroom) โครงสร้างผลิตจากคอนกรีตเบาแบบเบ็ดเสร็จพร้อมใช้งานจากโรงงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อง่ายจึงช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดี โดยจัดวางแยกพื้นที่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง จำนวน 28 ห้อง รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
4.) CT Scan ที่ช่วยตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 15 ล้านบาท
5.) อุปกรณ์ทางการแพทย์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ได้แก่
- แคปซูลความดันลบสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ (Isolation Capsule) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จำนวน 20 ยูนิต รวมมูลค่า 4 ล้านบาท
- ห้องตรวจเชื้อความดันลบแบบเคลื่อนที่ (Isolation Chamber) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคระหว่างการตรวจสอบเชื้อ จำนวน 5 ยูนิต (ยูนิตละ 3 ห้อง) รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
- กล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย (Aerosol Box) ช่วยในปฏิบัติการใส่ท่อช่วยหายใจ ผลิตจากแผ่นอะคริลิกชนิดใส จำนวน 200 ชิ้น รวมมูลค่า 3 แสนบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ในเอสซีจี ยังสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ภาคส่วนต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ เอสซีจี โลจิสติกส์ สนับสนุนการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและมูลนิธิต่าง ๆ การมอบบรรจุภัณฑ์ Fest ให้โรงพยาบาลรัฐฯ และมอบเจลล้างมือให้ กทม. เพื่อส่งต่อให้กับชุมชนแออัดและพนักงานกวาดถนน รวมทั้งเชิญชวนพนักงานจิตอาสา ทำอุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตาจากสารคัดหลั่ง (Face Shield) เพื่อส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการใช้งาน และร่วมเย็บหน้ากากผ้า ลดการใช้หน้ากากอนามัย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีหน้ากากใช้งานอย่างเพียงพอ พร้อมร่วมแบ่งปันหน้ากากผ้าให้กับผู้ที่ขาดโอกาสด้วย
**********************************************