จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ให้เลื่อนวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2563 (วันที่ 13 – 15 เมษายน 2563) ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะคลี่คลาย โดยคณะรัฐมนตรีจะพิจารณากำหนดวันหยุดราชการชดเชยให้ในภายหลังในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไปนั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้ซื้อบริการนำเที่ยวในประเทศไว้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2563 แต่ประสงค์จะเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทาง กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจนําเที่ยว มัคคุเทศก์และผู้นําเที่ยว ขอเน้นย้ำให้บริษัททัวร์ดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563 ตามที่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ดังนี้
กรณีมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้ตกลงไว้ โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ให้บริษัททัวร์คืนเงินค่าบริการแก่นักท่องเที่ยวเต็มจำนวน ทั้งนี้ การคืนเงินค่าบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว หากบริษัททัวร์มีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อเตรียมการจัดนำเที่ยว ค่ามัดจำของบัตรโดยสารเครื่องบินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ สามารถนำมาหักจากเงินค่าบริการนำเที่ยวที่ต้องจ่ายคืนให้นักท่องเที่ยวได้
โดยบริษัททัวร์ต้องแสดงหลักฐานต่อนักท่องเที่ยว แต่หากค่าใช้จ่ายของบริษัททัวร์สูงกว่าเงินค่าบริการนำเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจ่ายไป บริษัททัวร์จะเรียกเก็บเงินเพิ่มจากนักท่องเที่ยวไม่ได้
ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวไม่ได้รับเงินคืนตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563 นักท่องเที่ยวสามารถร้องเรียนได้ที่ กรมการท่องเที่ยว
อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยกรมการท่องเที่ยวขอความร่วมมือบริษัททัวร์ พิจารณาคืนเงินค่าบริการให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และขอให้นักท่องเที่ยวให้เวลาแก่บริษัททัวร์ในการบริการจัดการรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นั้น เป็นวิกฤตที่คนไทยทุกคนต้องฟันฝ่าผ่านไปด้วยกัน