ปิ๊งไอเดียพัฒนาชีวภัณฑ์เมตาไรเซียมปราบด้วงแรด ปั๊มรูปแบบใหม่อัดเม็ดพร้อมใช้

กรมวิชาการเกษตร ลุยต่อยอดงานวิจัยผลิตชีวภัณฑ์ราเขียวเมตาไรเซียม  โชว์แบบใหม่อัดเม็ดพร้อมใช้สะดวก  สลายตัวได้ง่าย  แถมคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าเชื้อสด  ยืดอายุเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้นานเป็นปี   ยันประสิทธิภาพปราบด้วงแรดศัตรูร้ายทำลายมะพร้าวเทียบเท่าใช้เชื้อสด  รุดจดอนุสิทธิบัตรแล้ว

นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ราเขียวเมตาไรเซียมเป็นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด  ปัจจุบันสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช  กรมวิชาการเกษตร ได้คัดเลือกราเขียวเมตาไรเซียมสายพันธุ์  DOA-M5 ที่มีความจำเพาะเจาะจงในการเข้าทำลายด้วงแรด  ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญในมะพร้าวและพืชตระกูลปาล์ม   โดยราเขียวสามารถทำลายด้วงแรดได้ทั้งในระยะตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย โดยที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้ราเขียวเมตาไรเซียมในรูปแบบเชื้อสดที่เลี้ยงในธัญพืช  ซึ่งสามารถเลี้ยงขยายได้ง่าย  แต่มีข้อเสียเรื่องระยะเวลาในการเก็บรักษาซึ่งไม่สามารถเก็บเชื้อไว้ได้นาน  และไม่สามารถควบคุมคุณภาพของเชื้อได้   เนื่องจากการเก็บรักษาเชื้อจำเป็นต้องเก็บในที่เย็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพของเชื้อ

ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาและต่อยอดงานวิจัยดังกล่าว สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช  จึงได้ศึกษาการผลิตชีวภัณฑ์เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม  โดยพัฒนาขบวนการผลิตเพื่อให้ได้เชื้อราบริสุทธิ์ในปริมาณมาก ที่สามารถควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพของเชื้อราให้ได้มาตรฐาน  รวมทั้งพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปผลิตในเชิงอุตสาหกรรมที่สะดวกต่อการนำไปใช้ในรูปแบบอัดเม็ด   ซึ่งมีข้อดีกว่าเชื้อสด  คือสามารถควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพของชีวภัณฑ์ราเขียวเมตาไรเซียมที่ผลิตขึ้นได้  ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น  สะดวกในการขนส่ง  เกษตรกรนำไปใช้ได้ง่าย  และผลิตภัณฑ์ยังมีการสลายตัวได้ง่ายเมื่อได้รับความชื้น  โดยสามารถหว่านลงพื้นที่เพื่อลดการระบาดของด้วงแรดในแหล่งขยายพันธุ์  ซึ่งการใช้เชื้อรูปแบบอัดเม็ดสะดวกต่อการหว่านลงในพื้นที่แทนการโรยเชื้อผงลงดิน หรือการผสมน้ำพ่น

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า ชีวภัณฑ์เมตาไรเซียมรูปแบบเชื้อสดอัดเม็ดสามารถเก็บรักษาได้นานเป็นปี  โดยเก็บในถุงอลูมิเนียมฟอยด์ในระบบสุญญากาศ และเก็บภายใต้อุณหภูมิ 7-8 องศาเซลเซียส   ยังคงคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการควบคุมด้วงแรดได้เหมือนการใช้เชื้อสด  ไม่เปลืองพื้นที่ในการเก็บรักษา สะดวกในการขนส่งและการนำไปใช้ ไม่ต้องระวังในเรื่องการเสื่อมคุณภาพและการฟุ้งกระจายเชื้อในระหว่างขนส่งและการนำไปใช้  และยังสามารถควบคุมคุณภาพเชื้อได้ ทราบปริมาณเชื้อที่ใช้ในพื้นที่ได้แน่นอน   ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร “ชีวภัณฑ์เชื้อราเขียวเมตาไรเซียมรูปแบบเชื้อสดอัดเม็ด” และได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชีวภัณฑ์เชื้อราเขียวเมตาไรเซียมรูปแบบเชื้อสดอัดเม็ดให้ภาคเอกชนนำไปดำเนินการขยายผลผลิตภัณฑ์สู่เกษตรกรแล้ว  ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 0-2 579-7580 ต่อ 133, 134

*****************************

พนารัตน์  เสรีทวีกุล : ข่าว