ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ทุกจังหวัดคลี่คลายแล้ว เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยผู้ประสบภัยในเบื้องต้น

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากกระแสลมตะวันตกระดับบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากมีความร้อนปกคลุม รวมถึงมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคกลาง ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ เลย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา และชลบุรี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลกระแสลมตะวันตกระดับบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากมีความร้อนปกคลุม รวมถึงมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคกลาง ทำให้ในช่วงวันที่ 20 มีนาคม 2563 – ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ เลย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา และชลบุรี รวม 31 อำเภอ 74 ตำบล 302 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,355 หลัง วัด 4 แห่ง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป