1.สถานการณ์ ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2563 ณ เวลา 08.00 น.
- ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 76 ราย กลับบ้านแล้ว 37 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 114 ราย
- ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 14 มีนาคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 6,176 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 258 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 5,918 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 4,223 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,953 ราย
- สถานการณ์ทั่วโลกใน 147 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 15มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 155,817 ราย เสียชีวิต 5,814 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,824 ราย เสียชีวิต 3,189 ราย
2.สธ. พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 32 ราย รักษาหายกลับบ้าน 2 ราย แนะงดไปสถานที่แออัด
กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่ม 32 ราย รักษาหายกลับบ้าน 2 ราย แนะหลีกเลี่ยง/งดเข้าไปในสถานบริการที่มีความแออัดและเสี่ยงสูง งดการเดินทางไปต่างประเทศ
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ว่า จากการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) มีมาตรการที่จะนำเสนอศูนย์บริหารจัดการของรัฐบาล อาทิ มาตรการการลดผู้เดินทางเข้าประเทศ ปิดสถานบริการที่มีความแออัดและเสี่ยงสูง งดกิจกรรม รวมคนหมู่มาก เพื่อเสนอท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการรายงานผู้ป่วยที่มี ความสัมพันธ์กับ สถานบันเทิง และร้านอาหารก่อนหน้านี้
ในวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 32 ราย ที่มีความสัมพันธ์กับสถานที่ต่างๆ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 เชื่อมโยงกับสนามมวย จำนวน 9 ราย
กลุ่มที่ 2 เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง จำนวน 8 ราย
กลุ่มที่ 3 ทำงานสัมผัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยว จำนวน 3 ราย
กลุ่มที่ 4 ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ จำนวน 7 ราย
กลุ่มที่ 5 เป็นผู้สัมผัสเจ้าของร้านอาหารที่ติดเชื้อ จำนวน 2 ราย
กลุ่มที่ 6 อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนโรค จำนวน 3 ราย
และยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 51 ราย
โดยมีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 29 ปี และหญิงไทย อายุ 22 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร
สรุปมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 37 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 76 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 114 ราย
ขณะนี้ เราพบผู้ป่วยรายใหม่จากสถานที่ที่มีคนหนาแน่น เช่น ผับ สนามมวย ร้านอาหาร จึงขอให้หลีกเลี่ยง หรืองดไปสถานที่ดังกล่าว แต่หากมีความจำเป็นต้องไปขอให้สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ แยกภาชนะแก้วน้ำ ช้อน หากเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ดังกล่าวขอให้สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ส่วนผู้ประกอบการให้เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดสถานที่ โต๊ะ เก้าอี้ และเปิดหน้าต่าง ประตู ระบายอากาศทุกวัน นอกจากนี้ ขอให้งดการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่พบผู้ป่วย กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการลงพื้นที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า คณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. จะมีการจัดประชุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 35 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งการจะสั่งปิดสถานที่ใดๆ ต้องได้รับการเห็นชอบจาก คณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัด
เช้าวันนี้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้รับผู้เดินทางจากประเทศอิตาลี จำนวน 83 คน ประกอบด้วย นักศึกษาแลกเปลี่ยน 78 คน นักท่องเที่ยว 3 คน พนักงานสายการบิน 2 คน ในจำนวนนี้ 6 คน เป็นผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังสังเกตอาการ เนื่องจากมีอาการไอ มีน้ำมูก ไม่มีไข้ ส่งไปรพ.สัตหีบกม.10 จำนวน 3 ราย รพ.บ้านฉาง 1 ราย รพ.มาบตาพุด 1 ราย และรพ.ระยอง 1 ราย ส่วนผู้เดินทางอีก 77 คน ส่งไปพักสังเกตอาการที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนครบ 14 วัน
3.คำแนะนำสำหรับประชาชน
ขอให้ประชาชนสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และ “Kor-Ror-OK” ChatBot 1422 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ตรวจสอบข่าวลวงได้ที่ www.antifakenewscenter.com