กระทรวงสาธารณสุข ห่วงคนไทยละเลยสุขอนามัยส่วนบุคคล เสี่ยงเพิ่มเชื้อ COVID-19 แนะห้ามใช้อุปกรณ์ แก้วน้ำ และของใช้ส่วนตัวร่วมกัน ลดการสัมผัสปนเปื้อนเชื้อโรค พร้อมขอความร่วมมือร้านอาหารคุมเข้มทุกขั้นตอน
วันที่ 13 มีนาคม 2563 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานรณรงค์สื่อสารความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CIVID-19) ณ แกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ สุขุมวิท 55 กรุงเทพมหานคร ว่า จากกรณีที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 11 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด
ซึ่งพบว่ามีประวัติสัมผัสกับเพื่อนที่เดินทางจากฮ่องกง โดยนัดสังสรรค์และมีพฤติกรรมใช้แก้วร่วมกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ถือเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการสัมผัสและอาจปนเปื้อนเชื้อโรคผ่านทางน้ำลาย จึงขอเน้นย้ำให้บุคคลกลุ่มเสี่ยง เพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวที่ต้องอยู่ร่วมกันให้ความสำคัญต่อสุขอนามัย ส่วนบุคคล ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น จาน ชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ และแก้วน้ำ และสิ่งของที่เป็นของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง 14 วัน เพื่อลดแพร่เชื้อโรคด้วยการสัมผัสซึ่งต้องคุมเข้ม ซึ่งร้านอาหารเป็นอีกหนึ่งสถานประกอบการที่กระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำมาตรการในการป้องกันโดยเน้นจุดสำคัญคือ จุดปรุงประกอบอาหาร โต๊ะ ห้องน้ำ ลูกบิด และอุปกรณ์ ทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น เน้นกระบวนการปรุงสุก ร้อนทุกครั้ง ส่วนผู้สัมผัสอาหารก็ต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี ถ้าพนักงานในร้านเจ็บป่วย ไม่สบาย ต้องให้หยุดงานหรือพบแพทย์ ซึ่งวิธีการป้องกันนี้ยังหมายรวมถึงร้านอาหารที่เป็นบุฟเฟต์ ควรมีที่คีบอาหารและช้อนกลางแยกไว้ ตามโต๊ะ
ทางด้านแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า หากมีการตรวจพบว่าผู้ที่มา กินอาหารหรือใช้บริการในร้านเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง และไม่ได้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ทางร้านควร ปิดร้าน หยุดให้บริการเพื่อทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในร้าน รวมทั้งล้างทำความสะอาดจาน ชาม ช้อน พร้อมนำมาผึ่งให้แห้งหรืออบเพื่อฆ่าเชื้อ แต่สำหรับในกรณีที่ผู้บริโภคสั่งอาหารมากินที่บ้านนั้น อาหารที่ส่งต้องสะอาดและยังคงสุก ร้อน เมื่อถึงมือผู้บริโภค และให้ล้างมือทุกครั้งด้วยสบู่และน้ำก่อนกินอาหาร และหลังเข้าส้วม
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 13 มีนาคม 2563