นครพนม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) รับซื้อแตงโมและผลไม้แปรรูปแช่แข็งตามนโยบายการนำหลักการตลาดนำการผลิต สร้างโอกาสในการแข่งขันผลผลิตสินค้าเกษตร สร้างรายได้กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่
วันที่ 11 มี.ค. 63 ณ ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) รับซื้อแตงโมและผลไม้แปรรูปแช่แข็ง ระหว่างกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกแตงโมไร้เมล็ดศรีสงคราม จังหวัดนครพนม กับ บริษัท ฟรุตต้าเนเชอรัล จำกัด และบริษัท เกษตรสุขใจ จำกัด โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกร ร่วมให้การสนับสนุนและเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการจัดพิธีลงนามในครั้งนี้
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามนโยบายตลาดนำการเกษตรของรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ได้มุ่งเน้นส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ รวมไปถึง กลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร ให้เกิดมีข้อมูลในการตัดสินใจ เกิดความร่วมมือ และใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือในการผลิตและการตลาด รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขันในด้านต่าง ๆ เมื่อกลุ่มเกษตรกรรู้ความต้องการของตลาด จะสามารถนำมาวางแผนการผลิต ลดความเสี่ยงจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และยังทำให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาสินค้าเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต ลดต้นทุน และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ของสินค้า รวมถึงการมีแหล่งจำหน่ายสินค้าที่แน่นอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางด้านรายได้ของเกษตรกร และช่วยให้ผู้บริโภค ได้เข้าถึงสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ
ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินงานในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ ปี 2559 ถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จำนวน 365,884 ครัวเรือน พื้นที่ 6,020,845.77 ไร่ จำนวนแปลงใหญ่ 6,534 แปลง สินค้าเกษตรกว่า 70 รายการ (ข้อมูล : กรมส่งเสริมการเกษตร) โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการกลุ่ม และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด มีการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตกับตลาด ตามนโยบาย “การตลาดนำการเกษตร” สำหรับสมาชิกเกษตรกรทุกรายในกลุ่ม จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ตั้งแต่การตกลงราคา การกำหนดชนิดและปริมาณผลผลิตที่ตกลงกับบริษัท ร่วมวางแผนการผลิต และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ได้แนวทาง วิธีการให้กลุ่มได้พัฒนามากยิ่งขึ้นต่อไป รวมทั้งการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มีการตกลงราคาในราคาที่เป็นธรรม และให้ความรู้แก่เกษตรกรด้านการวางแผน ประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงในขั้นตอนการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับการตลาด นอกจากนี้ยังขยายการรับซื้อไปยังกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง, ขยายกลุ่มสินค้าในการรับซื้อไปยังกลุ่มสินค้าอื่น เช่น ไม้ผล พัฒนาเกษตรกรจากผู้รวบรวมผลผลิต เป็นผู้คัดบรรจุผลผลิตในบรรจุภัณฑ์, พัฒนาคุณภาพผลผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน
นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม จึงได้ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุน ขับเคลื่อนภายใต้โครงการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผัก ผลไม้ และข้าว จังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกร ภายใต้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าแตงโม มุ่งเน้นให้กลุ่มเกษตรกรดำเนินการผลิต เกิดความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การสรรหาเกษตรกร การฝึกอบรมการปลูก การใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนการใช้สารเคมี วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งยังผลิตสินค้าแตงโมที่มีคุณภาพและ ได้มาตรฐานความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด ระหว่างวิสาหกิจ, บริษัท และสำนักงานเกษตรจังหวัด โดยผลักดันให้วิสาหกิจฯ มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตกลุ่มโรงงานแปรรูป ตลอดจนสามารถวางแผนการซื้อ – ขาย ผลผลิตสินค้าเกษตร ตามความต้องการของบริษัท เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา และสร้างความมั่นคงทางอาชีพ
สำหรับแผนในการผลิตและรับซื้อแตงโม บริษัทมีเป้าหมาย 2,000 ตัน ในปี 2563 ในราคาที่เป็นธรรมและตกลงกันล่วงหน้า รวมมูลค่า 29.5 ล้านบาท นอกจากนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม และกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชน จะร่วมกันแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตให้กับเกษตรกรสมาชิก ในการผลิตแตงโมให้ได้ตามปริมาณ คุณภาพที่ตกลงกัน และบริษัทจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือและดำเนินการรับซื้อผลผลิตสินค้าการเกษตรตามคุณภาพและปริมาณที่กำหนดจากวิสาหกิจชุมชน โดยจะต้องมีการรายงานผลการผลิตและการรับซื้อให้ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ทราบ เพื่อใช้ในการวางแผนการผลิตและการพัฒนากลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรเครือข่ายอื่นๆ ในการขับเคลื่อนนโยบายและโครงการโดยนำหลักการตลาดนำการผลิต ซึ่งเริ่มจากกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกแตงโมไร้เมล็ด ศรีสงคราม จ.นครพนม และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างในพื้นที่ รวม 7 วิสาหกิจชุม ได้ก่อต่อตั้งเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพัฒนาและต่อยอดเพิ่มมูลค่าผักผลไม้และข้าว จ.นครพนม เพื่อสังคม ขึ้นในปี 2562 เพื่อนำผลผลิตของกลุ่มมาแปรรูปเพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร เน้น 4 ด้าน คือ การเพิ่มมูลค่า ขยายช่องทาง ลดต้นทุนการผลิต และสร้างอาชีพแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมีการจัดการเศษขยะจากการผลิต นำไปแปรรูปเป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยหมัก ดินเพาะ วัสดุปรับปรุงดิน เป็นต้น และแปรรูปผลผลิต โดยนำไปต่อยอดเป็นขนม ของฝาก และอาหาร ทำให้มูลค่าของผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น