กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) จับมือเทศบาลนครปากเกร็ด และเทศบาลนครรังสิต นำทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน แจ้งข่าวสารให้ประชาชนเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สร้างความตระหนักในการป้องกันโรคและให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ย้ำติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความถูกต้องของข้อมูล
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส. ร่วมกับเทศบาลนครปากเกร็ด จัดกิจกรรมรณรงค์ อสม. เคาะประตูบ้านต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งได้จัดกิจกรรมKick Off อสม.เคาะประตูบ้านเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ณ ชุมชนในเขตเทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี และขยายพื้นที่ทำกิจกรรม ณ เขตเทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี ในวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีการให้ความรู้แก่ อสม.ในเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บทบาท อสม.ในการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคดังกล่าวเพื่อให้ อสม. นำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับประชาชนในชุมชน ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และออกกำลังกาย” ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคฯ พร้อมเป็นหูเป็นตา สแกนหากลุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างความตระหนักในการป้องกันโรคและให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนายกระดับ อสม.ให้เป็นหมอประจำบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพของประชาชนและชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้กล่าวเชิญชวนพี่น้อง อสม. ทั่วประเทศ ออกมาเคาะประตูบ้านให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อสร้างความตระหนัก ในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ถูกต้อง โดย อสม. 1คน รับผิดชอบ 15 -20 ครัวเรือน ออกให้ความรู้ตามคู่มือแผ่นพับ คัดกรองกรณีที่มีคนเดินทางไปประเทศพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีการสงสัยว่ามีการระบาด อสม.จะต้องแนะนำให้เฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน 14 วัน ถ้ามีไข้ ไอ จาม น้ำมูกเหมือนไข้หวัด ควรพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจ หรือไปพบแพทย์
“ทั้งนี้ อสม.ถือเป็นบุคลากรที่สำคัญเมื่อออกไปปฏิบัติงาน ก็ต้องป้องกันตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการมีร่างกายที่แข็งแรง โดย อสม.สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จากแอพพลิเคชั่น Smart อสม. เพราะเชื่อว่าหากพี่น้อง อสม.ร่วมแรงร่วมใจกัน เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ สัปดาห์นี้ ประชาชนทั้งประเทศจะมีภูมิต้านทานในแง่ของความรู้ในการปฏิบัติตัว รู้วิธีป้องกันตัวเอง” นพ.ภานุวัฒน์ กล่าว
ด้านนายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด กล่าวว่า เขตเทศบาลนครปากเกร็ด มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ คอนโด และมีศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้มีประชาชนหลากหลายสัญชาติเดินทางเข้ามาในพื้นที่เทศบาลนครปากเกร็ดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเทศบาลนครปากเกร็ด ได้มีการกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดผู้ที่มีความเสี่ยง โดยให้ผู้จัดงานมีการคัดกรองผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดของเทศบาล เช่น โรงเรียน หรือศูนย์เด็กเล็ก ก็ได้มีการตรวจคัดกรองทุกวัน รวมทั้งออกรณรงค์ให้ความรู้ เน้นการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หากจำเป็นต้องอยู่ในชุมชนให้ใส่หน้ากากอนามัย และการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างแรงหนุนให้พี่น้องชาวนครปากเกร็ดได้ดูแลสุขภาพตนเอง และยังสร้างบทบาทให้ อสม. เคาะประตูบ้าน แจ้งข่าวสาร การเฝ้าระวังโรคดังกล่าว ด้วยการสร้างความตระหนักแต่ไม่ตะหนก มีการป้องกันตนเองโดยมี อสม.เป็นผู้ให้ความรู้แก่ประชาชน
นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต เพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คือการสร้างการเรียนรู้ และสร้างความเข้าใจร่วมกันให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร และแนวทางในการป้องกัน และเฝ้าระวังที่ถูกต้อง และเทศบาลนครรังสิตขอขอบคุณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่พิจารณาเลือกพื้นที่เทศบาลนครรังสิตเป็นภาคี ในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
********************* 8 มีนาคม 2563