สมุนไพรน่ารู้ อภัยภูเบศร : ดอกบัวหลวง บำรุงหัวใจและสมอง

บัว หรือบัวหลวงดอกสีชมพูม่วง เป็นพืชที่คนอาเซียนรู้จักใช้กันดี มีวัมนธรรมในการใช้ประโยชน์จากบัวร่วมกัน เช่นการกินเป็นอาหาร เป็นยา ไม่มีชาติไหนในอาเซียนที่ไม่รู้จักบัว คนอาเซียนรู้ดีว่าทุกส่วนของบัวเป็นอาหารได้และเป็นยาได้เช่นเดียวกัน และมีการใช้ประโยชน์จากบัวคล้ายๆ กันทุกประเทศ โดยเฉพาะสรรพคุณเด่นๆ คือ การใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ สงบประสาท เป็นยาเย็นลดความร้อน แก้ไข้ แก้ร้อนใน รักษาแผลภายในท้อง แก้อาเจียนเป็นเลือด หยุดเลือด ริดสีดวง รักษาบิดและท้องเสีย รักษาอาการปัสสาวะบ่อย การหลั่งอสุจิกลางคืน แก่เร็ว เป็นต้น

ปัจจุบันมีงานวิจัยสนับสนุนสรรพคุณของบัวในการบำรุงหัวใจ สงบประสาท รักษาอาการทางท้องไส้  โดยพบว่าทุกส่วนของบัวมีคุณสมบัติช่วยในการสงบประสาท ช่วยในการนอนหลับ คลายเครียด ทำให้บัวได้รับการคัดเลือกให้เป็นยานอนหลับในบัญชียาสาธารณสุขมูลฐานของกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ยังมีสารช่วยลดการเต้นผิดปกติของหัวใจ สารช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย ช่วยหยุดเลือด ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

เนื่องจากเซลประสาทกว่าครึ่งหนึ่งของร่างกายอยู่ในระบบทางเดินอาหาร  จึงเปรียบเสมือนมีสมองที่สองของร่างกายอยู่ในท้องไส้ ทำให้ระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะกระเพาะจะไวต่ออารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นเมื่อเกิดความเครียด จึงเกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ปวดท้อง หรือมีกรดในกระเพาะตามมา การที่บัวช่วยให้คลายเครียดจึงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อท้องไส้อย่างยิ่ง

ใบบัวอ่อน กินเป็นผักสดหรือลวกจิ้มน้ำพริก หรือทำแกงคั่ว ในใบบัวอ่อนมีสาร nelumbine, nornucuferine, nuciferine ที่มีคุณสมบัติทำให้หลับสบายคลายเครียด  สารดังกล่าวมีในเกสรบัวและดีบัวด้วยเช่นเดียวกัน เกสรบัวนั้นจัดอยู่ในเกสรทั้ง 5 ในตำรายาไทย ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ สำหรับดีบัวการใช้ไม่ค่อยแพร่หลายในหมู่คนไทย แต่ในเวียดนามนิยมใช้เป็นชาชงเพื่อช่วยให้คลายเครียดและนอนหลับ

รากบัว ช่วยแก้ร้อนใน เป็นสรรพคุณที่คนไทยและคนจีนรู้กันดี ในสรรพคุณยาไทยกล่าวว่า รากบัวเป็นยาเย็น แก้พิษอักเสบ จึงเหมาะกับการเป็นอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะ เพราะเป็นโรคที่มีความร้อนภายใน ต้องใช้สมุนไพรที่มีคุณสมบัติเย็น ในรากบัวยังอุดมไปด้วยใยอาหารที่จะเป็นประโยชน์ต่อโปรไบโอติกส์และช่วยในการขับถ่าย  นอกจากนี้ รากบัวยังอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบีรวม และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย เช่น ทองแดง เหล็ก สังกะสี  มีรายงานการศึกษาพบว่าสารสกัดจากรากบัวช่วยบำรุงสมอง ลดน้ำตาลในเลือด ต้านสภาวะน้ำหนักเกิน รวมทั้งมีสารพวกโพลีฟีนอล  ซึ่งช่วยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้สาร liensinine ในรากบัวยังมีคุณสมบัติในการ รักษาลมแดด ท้องเสีย วิงเวียน และปัญหาของระบบทางเดินอาหาร

ปัจจุบันในหลายประเทศที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากดอกบัว เช่น อาหารเสริม ชาชง และเมนูอาหารเพื่อจำหน่ายเพิ่มมูลค่า ทำให้ประชาชนรู้จักดอกบัวมากขึ้นนอกจากการเป็นดอกไม้ แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์ทางสุขภาพได้มากมายอีกด้วย

 

สูตร ชาดอกบัว

สรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือด คลายเครียด ช่วยนอนหลับ

  1. ใช้กลีบดอกบัวหลวง ตากแห้ง(ตากลมให้แห้งไม่ตากแดดแรงจัด) จำนวน 1.5 กรัม (หรือ 1 หยิบมือ)
  2. นำกลีบบัวที่ได้ ใส่แก้ว หรือกา แช่น้ำร้อน 15 นาที
  3. จิบดื่มวันละ 1-2 แก้ว ก่อนอาหาร

ตำรับอาหาร

แกงใบบัว สูตรยายจุก (นางสมคิด จันสุนทร)

ส่วนประกอบ

ยอดบัวอ่อนที่ยังม้วนอยู่ประมาณ 25 ใบ เนื้อหมูหรือไก่ 2 ขีด หัวกะทิ 3 ขีด หรือจากมะพร้าวครึ่งซีก เกลือ น้ำตาล น้ำปลา พริกแกง น้ำปลา

วิธีทำ

นำใบบัวมาล้างให้สะอาด หั่นตามยาว แล้วค่อยซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ นำใบลงลวกให้สุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำกระทะตั้งไฟ ใส่กะทิเคี่ยวให้แตกมัน ใส่พริกแกงลงผัดให้หอม ใส่หมูลงผัดให้สุก นำใบบัวที่สะเด็ดน้ำแล้วลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตามชอบผัดให้เข้ากัน โรยใบมะกรูดตักขึ้นใส่จาน รสชาติแกงจะออกมันกลมกล่อม