คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ…เปิดโอกาสให้ชาวประมงที่เป็นเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ที่ประสงค์จะโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ สามารถยื่นขอหนังสือรับรองเพื่อดำเนินการกับเรือประมงที่จะนำออกนอกระบบกับกรมประมงได้ ณ สำนักงานประมงจังหวัด หรือ สำนักงานประมงอำเภอท้องที่ที่ติดทะเล ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตการทำประมงพาณิชย์รอบปีการทำประมงใหม่ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้
นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบกรมประมงออกประกาศ เรื่อง กำหนดชนิดเครื่องมือทำการประมงที่สามารถโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ และการโอนปริมาณสัตว์น้ำที่คงเหลือจากการโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ และกำหนดแบบคำขอรับโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ และแบบคำขอรับโอนปริมาณสัตว์น้ำที่คงเหลือจากการโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงพาณิชย์ในการลดภาระค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบอนุญาตการทำประมง พร้อมจัดสรรทรัพยากรสัตว์น้ำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับขีดความสามารถในการทำประมง และปริมาณผลิตผลสูงสุดของสัตว์น้ำที่สามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน โดยชาวประมงที่ประสงค์จะโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ สามารถยื่นขอหนังสือรับรองเพื่อดำเนินการกับเรือประมงที่จะนำออกนอกระบบ ณ สำนักงานประมงจังหวัดหรือ สำนักงานประมงอำเภอท้องที่ที่ติดทะเล ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตการทำประมงพาณิชย์ในรอบปีการทำประมงใหม่ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ โดยมีเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1.ชนิดเครื่องมือทำการประมงที่สามารถโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำได้ ประกอบด้วย
2.ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เรือประมงที่จะขอรับโอนใบอนุญาตฯ แล้วเท่านั้น
3.ใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่จะโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำต้องเป็นพื้นที่ที่ทำการประมงเดียวกัน
4.ผู้รับโอนใบอนุญาตต้องมีสิทธิทำการประมงในเขตการประมงไทย
5.ผู้รับโอนใบอนุญาตต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 39 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
6.เรือประมงต้องไม่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดี
7.เจ้าของเรือที่รับโอนต้องดำเนินการกับเรือลำเดิม หรือเรือประมงของผู้โอน โดยวิธีการที่กำหนด คือ การทำลายเรือ การเปลี่ยนประเภทการใช้เรือ การโอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติ การทำให้เรือสิ้นสภาพ
ให้แล้วเสร็จก่อนการอนุญาต
สำหรับแนวทางการดำเนินการโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ มีดังนี้
1. ผู้ที่ประสงค์จะโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ สามารถยื่นขอหนังสือรับรองเพื่อดำเนินการกับเรือประมงลำที่จะนำออกนอกระบบกับกรมประมงได้ก่อนยื่นคำขอรับใบอนุญาต ณ สำนักงานประมงจังหวัด หรือ สำนักงานประมงอำเภอท้องที่ที่ติดทะเล
2.ภายหลังจากที่ได้รับหนังสือรับรอง ฯ เจ้าของเรือจะต้องดำเนินการกับเรือประมงลำที่จะนำออกนอกระบบให้แล้วเสร็จตามที่แจ้งความประสงค์ไว้
3.ยื่นคำขอโอนในลักษณะควบรวม พร้อมแนบเอกสาร ดังนี้
– แสดงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับโอนใบอนุญาต (ที่ยังไม่หมดอายุ)
– แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ที่แสดงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมงซึ่งออกให้ ไม่เกิน 3 เดือน (กรณีเป็นนิติบุคคล)
– แนบหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ)
– แสดงเอกสารหรือหลักฐานความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เรือที่จะรับโอนใบอนุญาต
– แนบเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงว่าเจ้าของเรือ ผู้ควบคุมเรือ หรือผู้ได้รับใบอนุญาตเดิม
ไม่มีผลประโยชน์ได้เสีย ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือมีอำนาจควบคุมเรือประมงอีกต่อไป (กรณีเรือประมงที่จะขอรับโอนใบอนุญาตเคยถูกใช้ในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประมง)
– แนบหนังสือยินยอมให้ใช้เรือประมง (กรณีที่มีการถือกรรมสิทธิ์ร่วม)
– แนบหนังสือแสดงความยินยอมให้โอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำของ ผู้โอนใบอนุญาต พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้โอนใบอนุญาต
– แสดงใบมรณบัตร (กรณีผู้โอนใบอนุญาตถึงแก่ความตาย)
– แนบเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงว่าได้ดำเนินการกับเรือประมงที่จะนำปริมาณสัตว์น้ำมาควบรวมโดยวิธีการทำลาย หรือเปลี่ยนประเภท หรือโอนกรรมสิทธิ์เรือที่ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์หรือทำให้เรือสิ้นสภาพจากการเป็นเรือที่ใช้ทำการประมง เสร็จสิ้นแล้ว
4.ภายหลังได้รับอนุญาตให้โอนใบอนุญาตฯ ผู้ขอรับโอนจะต้องชำระค่าธรรมเนียม และรับใบอนุญาตใบใหม่ กรณีมีปริมาณสัตว์น้ำเหลือจะได้รับหนังสือรับรองปริมาณสัตว์น้ำให้แก่ผู้ได้รับอนุญาต
ซึ่งสามารถนำไปโอนปริมาณสัตว์น้ำให้เเก่เรือประมงลำอื่นได้อีก