สมุนไพรน่ารู้ อภัยภูเบศร : ชบา ยาบำรุงเลือด บำรุงผมดกดำ

ชบาเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย  ให้ความสวยงาม สบายใจ สบายตา เป็นยาเย็น ช่วยถอนพิษร้อน เป็นไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่คงมีคนนำเข้ามาในเมืองไทยมานานแล้ว เพราะมีใบชบาแดงเป็นตัวยาตัวหนึ่งในตำรับน้ำมันทิพโสพศ ครอบฝีทั้ง 16 จำพวก ในตำรายาพระโอสถพระนารายณ์ หนังสือไม้เทศเมืองไทยซึ่งเป็นผลงานการสำรวจสมุนไพรพื้นบ้านของหมอเสงี่ยม พงษ์บุญรอด ในระหว่างปี 2482-2490 เขียนถึงชบาไว้ว่า แพทย์ตามชนบทใช้รากสดๆ ตำให้ละเอียด พอกฝี แก้ฟกบวม ถอนพิษร้อน ต้มน้ำกินเป็นยาขับน้ำย่อยอาหาร ทำให้อาหารมีรส แสดงว่าคนไทยรู้จักใช้ประโยชน์จากดอกชบามานานแล้ว

ดอกชบามีฐานะที่น่าสงสารในสังคมไทย โดยเฉพาะดอกชบาแดงที่คนไทยถือว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่เป็นมงคล เนื่องจากในสมัยต้นรัตนโกสินทร์จะใช้ดอกชบาประจานลงโทษผู้หญิงนอกใจสามีด้วยการให้ทัดดอกชบาแดงที่หูทั้งสองข้าง หรือเอาชบาแดงมาร้อยเป็นพวงมาลัยสวมคอและยังใช้เป็นเครื่องหมายของนักโทษประหาร ซึ่งความเชื่อดังกล่าวน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียที่ใช้ดอกชบาสวมคอนักโทษที่จะถูกประหารเพื่อบูชาเจ้าแม่กาลี(เจ้าแม่กาลีเป็นภาคหนึ่งของพระแม่อุมา พระมเหสีของพระศิวะ เป็นภาคที่โหดร้ายเพราะต้องสู้กับยักษ์ ดื่มเลือดเป็นอาหาร ดอกไม้ที่ใช้บูชาคือ ดอกชบา) แต่จริงๆ แล้วดอกชบายังใช้บูชาพระพิฆเนศด้วย

ดอกชบากินได้ ยอดอ่อนก็กินแล้วลื่นๆ พ่อเม่า บุญมี ได้ฤกษ์ หมอยาปราจีนเคยพากิน แต่ห้ามเอาดอกชบาแดงไปไหว้พระเพราะไม่เป็นมงคล พ่อเม่าและหมอยาคนอื่นๆ มักจะบอกว่า สมุนไพรที่มีสีแดงช่วยบำรุงเลือด บำรุงหัวใจ ผู้หญิงต้องกินเป็นประจำ ดอกชบาสีแดงมีสารที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน เช่นเดียวกับอัญชัน สารนี้มีคุณสมบัติช่วยการไหลเวียนของเลือด และมีรายงานการศึกษาฤทธิ์ แอนโทไซยานิน ในการปกป้องหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น สอดคล้องกับที่หมอยาว่าไว้ นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาในสัตว์ทดลองว่า ดอกชบาช่วยลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ช่วยคลายเครียด ในดอกชบายังมี วิตามินซี สารโพลีฟีนอลและโพลีแซคคาไรด์ ซึ่งช่วยให้แผลหายเร็ว มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และชะลอความชรา

นอกจากประโยชน์ในด้านการเป็นยาบำรุงเลือด ถอนพิษร้อนแล้ว ยังสามารถใช้ชบาเพื่อบำรุงเส้นผมได้คล้าย กับอัญชันอีกด้วย เช่น ใช้ปลูกคิ้วและกระตุ้นให้ผมงอก โดยเอาน้ำคั้นจากดอกกับน้ำมันมะกอกอย่างละเท่ากัน มาเคี่ยวจนกระทั่งน้ำระเหยหมดใช้นวดกระตุ้นการงอกของผม หรือใช้ดอกชบาเคี่ยวรวมกับมะขามป้อมและสมอไทยเป็นน้ำมันนวดผม หรือใช้ใบใช้ขยี้ใส่ผมเพื่อบำรุงผมก็ได้ ซึ่งก็มีรายงานการศึกษาที่พบว่า ดอกและใบชบากระตุ้นการงอกของผมได้จริง

คุณสมบัติอื่นๆ ของชบาที่มีการค้นพบ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านรังสี แก้ปวด คลายกล้ามเนื้อเรียบ ลดน้ำตาลในเลือด คลายเครียด ลดไขมัน เป็นที่น่าดีใจว่าแม่หมอพ่อหมอยาในสามจังหวัดภาคใต้ยังคงใช้ชบาเป็นยากันอยู่ และได้กรุณาส่งต่อความรู้เหล่านั้นจนมีตำรับยาจากชบาที่บอกวิธีใช้อย่างละเอียดมาลงในหนังสือเล่มนี้

ตัวอย่างการใช้ชบา ตำรับยา

ลดไข้ตัวร้อนในเด็กและผู้ใหญ่: นำใบชบามาขยำกับน้ำให้เข้ากันจนเมือกเหนียวจากใบออกมา แล้วนำผ้าขนหนูผืนเล็กมาแช่ในน้ำสมุนไพร จากนั้นนำมาวางหรือแปะไว้ที่หน้าผากคนไข้ พร้อมทั้งชโลมศีรษะให้เปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลา

บำรุงเลือดผู้หญิง: นำรากมาต้มอาบบำรุงเลือดในผู้หญิง เอาดอกมากินเป็นผัก

แก้สิวฝ้า; ใช้ดอกขยี้ทาหน้า

แก้ผดผื่นคัน: ใช้ใบ ดอก ขยี้ทาที่แผล

บำรุงผมให้แข็งแรง ดกดำเงางาม ป้องกันผมร่วง: นำใบชบาขนาดพอประมาณ มาขยำในน้ำให้เข้ากันจนน้ำเป็นสีเขียวหรือน้ำเมือกเหนียวจากใบออกมา นำมากรอง แล้วนำมาใส่ผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือสามารถนำใบมาขยำกับกากหรือหางกะทิให้เข้ากัน นำมากรอง แล้วนำมาใส่ผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีเช่นกัน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ช่วยให้คิ้วดกดำ: นำใบชบามาขยี้กับน้ำเล็กน้อยให้เข้ากันจนน้ำเมือกจากใบออกมา แล้วนำมาทาบริเวณที่ต้องการ ควรทำบ่อยๆ ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

น้ำชบา

ส่วนประกอบ

  1. ดอกชบาสีแดง 3-4 ดอก
  2. น้ำสะอาด 1แก้ว 250 ซีซี
  3. น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา

วิธีทำ 

ต้มน้ำจนเดือด ใส่ดอกชบาสดแล้วปิดไฟทันที ตั้งทิ้งไว้ให้น้ำชบาเย็น ใส่น้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ