กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกองทัพบก ส่งอากาศยานปีกหมุน KA – 32A11BC จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติการขึ้นบินทิ้งน้ำดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ปกป้องผืนป่าระยะทางรวมกว่า 44 กิโลเมตร สามารถสกัดกั้นพื้นที่ไม่ให้เกิดไฟป่าได้กว่า 5,550 ไร่ พร้อมบูรณาการป้องกันไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนืออย่างเข้มข้นและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลา
วันที่ 15 ก.พ. 63 ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ภาคเหนือได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในหลายพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีจุดความร้อน (Hotspots) ในพื้นผิวดินเกิดขึ้นหลายจุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก โดยศูนย์การบินทหารบก ลพบุรี นำอากาศยานปีกหมุน KA – 32A11BC จำนวน 2 ลำ (ฮ.ปภ.32-01 และ ฮ.ปภ.32-02) ปฏิบัติการร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 รับภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2563) โดยได้ดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ และแพร่ ซึ่งเป็นภูเขาสูงยากต่อการเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ แยกเป็น ลำปาง พื้นที่บริเวณเขาพระบาท อำเภอแม่เมาะ อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมืองลำปาง รวม 54 เที่ยว ระยะทาง 21.60 กิโลเมตร เชียงใหม่ พื้นที่บริเวณอำเภอสันทราย รวม 31 เที่ยว ระยะทาง 12.40 กิโลเมตร และแพร่ บริเวณหน้าผาดอยสูง ตำบลแม่ยม ตำบลห้วยม้าย อำเภอสอง และพื้นที่ตำบลเวียงต้า อำเภอลอง รวม 27 เที่ยว ระยะทาง 10.40 กิโลเมตร ซึ่งภาพรวมการออกปฏิบัติการดังกล่าวสามารถดับไฟป่าได้สำเร็จเป็นระยะทางรวม 44.40 กิโลเมตร สามารถสกัดกั้นพื้นที่ไม่ให้เกิดไฟป่าได้รวม 5,550 ไร่
“ปภ. ยังคงเดินหน้าบูรณาการป้องกันไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนืออย่างเข้มข้น ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย สนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่า ฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดปริมาณมลพิษในอากาศในพื้นที่ตามแผนที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อควบคุมวิกฤตปัญหาไฟป่าและหมอกควันให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายมณฑล กล่าวทิ้งท้าย