กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางพื้นที่มีอากาศเย็น ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงควรดูแลเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยและเสียชีวิตได้ พร้อมแนะให้ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุวิทยาพบว่าในช่วงนี้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยจะมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กในโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ที่คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อจากการไอ จามรดกัน หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรค เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู เป็นต้น สำหรับอาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน ดังนั้นหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตามในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
สถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 36,976 ราย เสียชีวิต 1 ราย พบมากสุดในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนอายุ 0-4 ปี รองลงมาอายุ 10-14 ปี และอายุ 7-9 ปี ส่วนจังหวัดที่อัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงใหม่ พะเยา หนองคาย กรุงเทพมหานคร และเชียงราย ตามลำดับ
นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งมีผู้คนแออัด ควรมีการเฝ้าระวังการป่วย และคัดแยกผู้ป่วยออกจากคนที่ปกติ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และมีระบบการรักษาที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันโรคและภัยสุขภาพแก่ประชาชน
สำหรับวิธีการป้องกัน ขอให้ประชาชนยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ ปิด คือปิดปากและ ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัย ผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มาก ก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่สถานพยาบาล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
………………………………………..
ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค