กรมอนามัย แนะ ตักบาตรพระสงฆ์ด้วยเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม ลดเสี่ยงโรค

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยทำบุญตักบาตรด้วยเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม เพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์ ลดเสี่ยงป่วยด้วยโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และหัวใจ พร้อมแนะพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัย ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สร้างสุขอนามัยดี

นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันพระใหญ่ การทำบุญ ตักบาตรพระสงฆ์ที่วัด หากไม่คำนึงถึงอาหารที่จะนำมาตักบาตรก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพพระสงฆ์ได้ เนื่องจากอาหารที่ประชาชนนิยมตักบาตรมักเป็นอาหารที่ไม่หลากหลายและประกอบด้วยแป้ง น้ำตาล ไขมัน และกะทิ ที่ให้พลังงานสูง ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพพระสงฆ์ เพราะไม่สามารถเลือกฉันอาหารเองได้ ต้องฉันอาหารตามที่ฆราวาสตักบาตรประกอบกับสถานภาพพระภิกษุสงฆ์ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งพบว่าพระสงฆ์ร้อยละ 60 มีระดับไขมันในเลือดสูง และร้อยละ 50 มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาพาธสูงสุด สามอันดับแรก ได้แก่ ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน สาเหตุมาจากการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็มจัด และน้ำปานะที่มีรสหวานเป็นประจำ และพระสงฆ์มีภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน มีแคลเซียมต่ำกว่าคนปกติ 8-10 เท่า เนื่องจากบริโภคอาหารในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมเพียงพอ

นายแพทย์บัญชา กล่าวต่อไปว่า เพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์จึงควรทำบุญตักบาตรด้วยอาหารเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม และควรเลือกใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว หรือข้าวกล้องผสมข้าวขาว เลี่ยงอาหารทอด เปลี่ยนการตักบาตรด้วยแกงกะทิเป็นต้มจืด ต้มยำน้ำใส แกงเลียง แกงป่า รสไม่จัด เน้นการต้ม นึ่ง อบ ยำ หรือทำเป็นน้ำพริก ผักลวก ไข่ต้ม และลดการปรุงอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้รสไม่หวาน เช่น ฝรั่ง ส้ม แตงโม มะละกอ หากไม่ได้ปรุงอาหารเอง ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีการปรุงสุก ใหม่ ใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และใช้อุปกรณ์ หยิบจับอาหารแทนการใช้มือ เพื่อสุขอนามัยที่ดี

“สำหรับพุทธศาสนิกชนที่เข้าวัดฟังธรรมในวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก หากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หรือเหนื่อยหอบ ควรสวดมนต์อยู่ที่บ้าน สำหรับประชาชนทั่วไปควรให้ความร่วมมือ   สวมหน้ากากอนามัยเพื่อสร้างสังคมไทยรอบรู้ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาไปด้วยกัน ในกรณีพี่น้องที่อาศัยในชนบทที่มีพื้นที่และอากาศระบายดี ก็ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในฝูงชนอย่างแออัด เลี่ยงการหยิบจับประตู ราวจับ ของใช้ร่วมกัน หากจำเป็นก็ขอให้หมั่นล้างมือบ่อย ๆ อย่าเอามือมาจับบริเวณใบหน้าตัวเอง โดยให้ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สร้างสุขอนามัยดี ทั้งนี้ การใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายวิธีร่วมกันของคนไทยทุกคน จะมีส่วนสำคัญทำให้ชุมชนไทยเข็มแข็งจากเชื้อไวรัสโคโรนาและเป็นการสร้างคุณธรรมสามัคคีในวันมาฆะบูชาด้วยการมุ่งจิตดีไม่แพร่เชื้อต่อผู้อื่น” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

***

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 8 กุมภาพันธ์ 2563