กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะผู้ปกครองเด็ก ควรหลีกเลี่ยง พื้นที่หรือสถานที่แออัดที่มีผู้คนพลุกพล่าน หากมีความจำเป็นต้องไปพื้นที่ที่มีความเสี่ยงผู้ปกครองควรใส่หน้ากากอนามัยให้กับบุตรหลานทุกครั้งก่อนออกจากบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัญหามลพิษทางอากาศในปัจจุบันโดยเฉพาะค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะขนาดของฝุ่นละอองมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ถ้าได้รับฝุ่นละอองในปริมาณเกินมาตรฐานสะสมเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปกครองควรใส่หน้ากากอนามัยให้กับบุตรหลานทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ระหว่างนี้หากมีความจำเป็นต้องไปพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน และ ปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ขอแนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยให้บุตรหลาน โดยเลือกชนิดที่สามารถป้องกัน ฝุ่น PM2.5 ได้ และให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. จับบริเวณสายคล้องหูของหน้ากากอนามัยทั้งสองข้างแล้วสวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปากของเด็ก โดยให้ขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูกแล้วดึงลงมาให้อยู่บริเวณใต้คาง และรอยจีบพับคว่ำลง กดให้ราบกับสันจมูกของเด็ก สำหรับหน้ากากอนามัยที่ทำด้วยกระดาษควรเปลี่ยนทุกวัน และทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของบุตรหลานอย่าลืมสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
…………………………………………………..