พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้าเคลื่อนที่ จังหวัดนราธิวาส (อำเภอสุไหงโก-ลก)” ภายใต้แนวคิด “โชว์ ช้อป เชิญ ชื่น ชิม” ผลผลิตเด็กไทยยุคใหม่ พัฒนาก้าวไกลสู่ยุค Thailand 4.0 เพื่อนำเสนอผลงานเด่นและความสำเร็จการจัดการศึกษาของสถานศึกษาของภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2561 ณ บริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า โครงการกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้าเคลื่อนที่ จังหวัดนราธิวาส (อำเภอสุไหงโก-ลก) จัดขึ้นเพื่อนำเสนอผลงานเด่น และผลสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นราธิวาส เขต 2, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 15, การศึกษาเอกชน อาชีวศึกษา สำนักงาน กศน. และเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ภายใต้แนวคิดกิจกรรม “5 ช.” ที่จะเปิดโอกาสให้เด็กแสดงความสามารถอย่างรอบด้าน ได้แก่
โชว์: การจัดแสดงนิทรรศการผลงานหรือกิจกรรมเด่น
ช็อป: การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสถานศึกษา
เชิญ: การประชาสัมพันธ์เข้าร่วมชมงาน
ชื่น: กิจกรรมสะท้อนความสุข และความสำเร็จร่วมกันของทุกภาคส่วน
ชิม: การลิ้มรสและลงมือทำด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังที่จะสร้างความรับรู้ถึงผลสำเร็จของการจัดการศึกษาต่อประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถานศึกษากับชุมชน อันจะนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมและการบูรณาการในการจัดการศึกษาต่อไป
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาการศึกษาซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพและมีความสามารถ เพื่อไปพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศในอนาคต และในปีการศึกษา 2561 ได้กำหนดให้เป็น “ปีแห่งการพัฒนาคุณภาพการศึกษา” ที่มุ่งเน้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม จากการดำเนินงานในหลายส่วน อาทิ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้, โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้, หลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น และหลักสูตรแกนกลางสถาบันศึกษาปอเนาะ, การจัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาฯ, ความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่เพื่อเป็นพี่เลี้ยงด้านการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน รวมทั้งโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อพัฒนาประเทศทุกมิติให้เจริญเติบโตไปพร้อมกัน โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งความก้าวหน้าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างดียิ่ง
ในฐานะที่อำเภอสุไหงโก-ลก ได้รับการประกาศให้เป็น “เมืองต้นแบบด้านการค้าชายแดนระหว่างประเทศ” (International Border City) ในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จึงต้องวางแผนการดำเนินงานและจัดการศึกษาให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาพื้นที่และความต้องการกำลังคนของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในเชิงวิชาการและวิชาชีพ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาชุมชน พื้นที่ และประเทศโดยรวม
โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวฝากให้ชาวสุไหงโก-ลก น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และศาสตร์พระราชา หลักการทรงงานข้อ 23 “รู้ รัก สามัคคี” ตลอดจนพระบรมราโชวาทในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ในหลวงรัชกาลที่ 10) ซึ่งทรงพระราชทานพระราโชบายด้านการศึกษาที่ต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม 3) มีงานทำ มีอาชีพสุจริต 4) เป็นพลเมืองดี
“ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักในการดำเนินงานด้านการศึกษาของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และรณรงค์ให้ทำความดีร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมดูแลสุขภาพและอนามัยของนักเรียนและประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อดูแล ป้องกัน รักษาและแก้ไขปัญหาด้านทันตกรรม ยาเสพติด และโรคระบาดต่าง ๆ โดยการรณรงค์การสร้างสุขภาพที่ดี ทั้งในหมู่เด็ก เยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง และประชาชนอย่างต่อเนื่อง” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย